องค์กรภาคประชาสังคมด้านต่างๆ ชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านพ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน
โดยตั้งคำถามและข้อสังเกตว่า เป็นกฎหมายที่รัฐบาลพยายามจำกัด และทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็น สิทธิ เสรีภาพ และความทุกข์ร้อนต่างๆ
เป็นกฎหมายที่รัฐบาลผลักดัน โดยให้อำนาจการบังคับใช้ผ่านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขณะนี้เสร็จสิ้นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นไปแล้ว จากนั้นจะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เพื่อนำเข้าสู่รัฐสภา
หากผ่านก็จะเป็นอีกกฎหมายที่ให้รัฐมีอำนาจควบคุม สกัดขัดขวางพัฒนาการ และความเข้มแข็งของภาคประชาชนกลุ่มต่างๆ
พ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หรือ พ.ร.บ.เอ็นจีโอ ให้อำนาจรัฐแทรกแซงกิจกรรมต่างๆ ด้วยการตรวจสอบบัญชี แหล่งทุน แหล่งที่มารายได้ การใช้จ่ายขององค์กร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้อำนาจแก่ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะ นายทะเบียน มีอำนาจระงับการจัดกิจกรรมของประชาชน โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการศาล
นอกจากนี้ กฎหมายยังเต็มไปด้วยข้ออ้างคลุมเครือระบุถึงศีลธรรมอันดีของสังคม ความสงบเรียบร้อย ความแตกแยก สิทธิเสรีภาพของบุคคลอื่น ความมั่นคงของรัฐ ความมั่นคงด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น
ทั้งหลายเหล่านี้ไม่นิยามถ้อยคำให้ชัดเจน ยิ่งกว่านั้นยังให้เจ้าพนักงานใช้อำนาจดุลพินิจอย่างเต็มที่ในการตีความและบังคับใช้
การรวมกลุ่ม การชุมนุมเรียกร้อง การขับเคลื่อนรณรงค์ต่างๆ ของประชาชน และภาคประชาสังคม เป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานตามระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐต้องเปิดโอกาสจะได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและเป็นธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับประชาชนระดับล่าง การรวมตัว หรือชุมนุม เป็นอาวุธเพียงอย่างเดียวที่ใช้เจรจาต่อรอง ต่อสู้กับอำนาจรัฐและอำนาจทุนที่ไม่เป็นธรรม
ปัจจุบัน พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะก็เป็นอุปสรรคสำหรับการรวมกลุ่ม และการชุมนุมอยู่แล้ว แต่รัฐบาลยังจะออกอีกกฎหมาย เพื่อเป็นเครื่องมือสกัดขัดขวาง หยุดพัฒนาการทางสังคม และความมั่นคงของมนุษย์
การที่ประเทศจะขับเคลื่อนรุดหน้าไปได้ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองนั้น รัฐต้องสนับสนุนการเติบโต และความเข้มแข็งของภาคประชาชน