วันที่ 19 สิงหาคม เป็นวันแรกที่กระทรวงการคลัง เปิดให้ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่งเฟส 5 วงเงินทั้งสิ้น 21,200 ล้านบาท

เป็นการยืนยันสิทธิรายเดิม 26.27 ล้านสิทธิ และรายใหม่ 2.3 แสนสิทธิ ปรากฏว่าช่วงแรกแอพพลิเคชั่นเป๋าตังล่ม ไม่สามารถใช้งานได้

ในส่วนผู้ลงทะเบียนใหม่ 2.3 แสนสิทธินั้น ปรากฏว่าครบเต็มจำนวนอย่างรวดเร็วในช่วงสายของวันเดียวกัน

เป็นที่น่าสังเกตว่าทุกครั้งที่เปิดให้ลงทะเบียนใช้สิทธิรับบริการจากรัฐ ช่องทางที่ดำเนินการมักมีปัญหาทุกครั้ง ซึ่งหวังว่าจะได้แก้ไขปรับปรุงให้พร้อม

คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเฟส 5 นั้น ต้องไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3

โครงการคนละครึ่ง เป็นมาตรการที่รัฐบาลนำมาใช้ลดผลกระทบด้านกำลังซื้อ เริ่มใช้มาตั้งแต่ตุลาคม 2563 ถึงตุลาคม 2565 รวม 5 เฟส ใช้วงเงินรวมทั้งสิ้น 234,500 ล้านบาท

เป็นมาตรการหนึ่งที่รัฐบาลนำมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ นอกเหนือจากโครงการอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งใช้เงินเป็นจำนวนมหาศาลเช่นกัน

แต่นักเศรษฐศาสตร์และนักการเงินการคลัง มองว่าเป็นโครงการประชานิยมที่ทำแล้ว ยังไม่ทำให้เกิดการไหลเวียนของเศรษฐกิจได้มากนัก

นอกจากโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ซึ่งแจกเงินให้คนละ 800 บาท ระยะการใช้สิทธิตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน-วันที่ 31 ตุลาคมแล้ว

ยังมีโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 จำนวนไม่เกิน 13.34 ล้านคน ช่วยเหลือ 200 บาทต่อคน เป็นเวลา 2 เดือน วงเงิน 5,336 ล้านบาท

โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ ระยะที่ 3 จำนวนไม่เกิน 2.22 ล้านคน ช่วยเหลือ 200 บาทต่อคน เป็นเวลา 2 เดือน วงเงิน 890 ล้านบาท

เงินจำนวนมหาศาลที่นำมาใช้นี้ มาจากพ.ร.ก.เงินกู้ทั้งสิ้น ซึ่งหมายความว่าประชาชนทุกคนต่างต้องรับภาระหนี้ถ้วนหน้า อันเป็นปัญหาจากการบริหารจัดการของรัฐบาลที่ไม่เป็นมืออาชีพ