จากกรณี พระมนัส พระสงฆ์จากจังหวัดนครสวรรค์ ติดอยู่ภายใน ถ้ำพระไทรงาม หมู่ 8 ตำบลเนินมะปราง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 ไม่สามารถออกจากถ้ำได้เนื่องจาก ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง มีฝนตกชุกติดต่อกันหลายวัน ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้น้ำหลากเข้าท่วมภายในถ้ำพระไทรงาม ปิดเส้นทางออกจากถ้ำ ซึ่งมีลักษณะเป็นคอห่าน จึงทำให้พระมนัสออกมาจากถ้ำไม่ได้
ล่าสุด นายปารเมศ แสงสว่าง นายอำเภอเนินมะปราง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยาน ทุ่งแสลงหลวง ตำรวจ สภ.เนินมะปราง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปภ.จังหวัด หน่วยกู้ภัยอุทยานแห่งชาติ อบต.เนินมะปราง ได้ลงพื้นที่เพื่อเตรียมการหาวิธีการช่วยเหลือพระมนัส
โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถานได้จัดกำลังเข้าไปสำรวจภายในถ้ำพระไทรงาม และเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัย รายงานนายอำเภอ ขอยกเลิกภารกิจ เนื่องจากน้ำไหลแรง ยุติการช่วยเหลือออกไปก่อน และขอรับการสนับสนุนจากนักประดาน้ำกู้ภัยผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิปอเต๊กตึ้ง และ ฮุก31 ที่เคยปฏิบัติการร่วมช่วยเหลือที่ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย มาร่วมช่วยเหลือพระมนัส ขณะเดียวกัน ยังหาวิธีอื่นคือ ปภ.เขต9 พิษณุโลก ได้จัดเตรียมให้เจ้าหน้าที่ นำเครื่องสูบน้ำเตรียมจะใช้ตามแผนสูบน้ำออกจากถ้ำ เพื่อลดระดับน้ำและหาหนทางช่วยเหลือพระมนัสให้เร็วที่สุด แต่ในพื้นที่บริเวณถ้ำพระไทรงาม ยังคงมีฝนตกหนักอีกครั้ง
และเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. พล.ต.ทวีศักดิ์ วงศ์ทวีทรัพย์ ผบ.กองพลพัฒนาที่ 3 ได้นำเอากำลังและเครื่องมือยุทโธปกรณ์ มาสนับสนุนและร่วมวางแผนปฎิบัติการช่วยเหลือพระมนัสในครั้งนี้ด้วย โดยกองอำนวยการช่วยเหลือพระสงฆ์ติดถ้ำพระไทรงาม ได้เร่งดำเนินการวางแผน สำรวจกำลังคนและหาข้อมูล เพื่อหาวิธีช่วยเหลือ ส่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยอุทยานและหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก และทหารจาก กองพลพัฒนาที่ 4 กองทัพภาคที่ 3 ส่งชุดเข้าไปสำรวจพื้นที่ภายในถ้ำอย่างละเอียด เพื่อเอาไว้ใช้เป็นข้อมูล ให้นักดำน้ำกู้ภัยผู้เชี่ยวชาญ ได้ใช้ในการวางแผนช่วยเหลือพระมนัสได้อย่างปลอดภัยทั้งหน่วยกู้ภัยและพระมนัส ในวันรุ่งขึ้นต่อไป