#น้ำท่วมเชียงใหม่ ย่านการค้าใจกลางเมืองจมน้ำเต็มพื้นที่ หนักสุดในรอบเกือบ 100 ปี

Home » #น้ำท่วมเชียงใหม่ ย่านการค้าใจกลางเมืองจมน้ำเต็มพื้นที่ หนักสุดในรอบเกือบ 100 ปี
#น้ำท่วมเชียงใหม่ ย่านการค้าใจกลางเมืองจมน้ำเต็มพื้นที่ หนักสุดในรอบเกือบ 100 ปี

สถานการณ์น้ำท่วมของเชียงใหม่วิกฤติหนักในรอบเกือบ 100 ปี ย่านเศรษฐกิจการค้าของเชียงใหม่จมน้ำเต็มพื้นที่ ช้างม่อย ท่าแพ ลอยเคราะห์ ตลาดวโรรส ตลาดเมืองใหม่ น้ำทะลักมาแรงเก็บของไม่ทันรถจมน้ำเกือบมิดคัน ร้านค้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร บางจุดท่วม 2 เมตร

วันนี้ (5 ตุลาคม ) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ว่า มวลน้ำ 646 ลบม./วินาที ได้ไหลเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่ ณ สถานีวัดระดับน้ำสะพานนวรัฐ หรือ P1 สูงสุดเมื่อเวลา 02.00 น. วัดระดับน้ำได้ 5.25 เมตร และทรงตัวอยู่จนถึงเวลา 05.00 น. ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับขึ้นมาอีก 2 เซนติเมตร และชั่วโมงละ 1 เซนติเมตร จนเมื่อเวลา 11.00-13.00 น. ทรงตัวอยู่ที่ 5.30 เมตร

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. ลดลงมา 1 เซนติเมตรมาอยู่ที่ 5.29 เมตร

โดยในช่วงกลางดึกที่ผ่านมาที่ระดับน้ำขึ้นสูงต่อเนื่องด้วยความเร็วและแรง ได้ทำให้พนังกั้นน้ำและกระสอบทรายที่เทศบาลนครเชียงใหม่ทำไว้ป้องกันการไหลทะลักเข้าสู่ตัวเมือง พังลงไหลตามกันมาตลอดแนวแม่น้ำปิงตั้งแต่พนังที่ตำรวจภูธภาค 5 ย่านเชียงใหม่แลนด์

โดยเฉพาะใจกลางย่านเศรฐกิจการค้าของเชียงใหม่ กระสอบทรายริมแม่น้ำปิงที่กั้นเป็นพนังไว้แตกออกทำให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบริเวณตลาดวโรรส หรือกาดหลวง  และตลาดต้นลำไย  เข้าท่วมผิวถนน ร้านค้า บ้านเรือนประชาชนแบบวงกว้างในจุดที่ไม่เคยเกิดน้ำท่วมมาก่อน ทั้งถนนสายช้างม่อย ท่าแพ ลอยเคราะห์ ศรีดอนไชย เจริญเมือง แก้วนวรัฐ สี่แยกศาลเด็ก ถูกน้ำเข้าท่วมเต็มพื้นที่แล้ว

ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจบริเวณถนนช้างม่อย ต่อเนื่องไปถึงย่านตลาดวโรรส หรือกาดหลวงพบว่าระดับน้ำท่วมสูง 60-100 เซนติเมตร บางจุดสูงกว่า 1.5 เมตร ซึ่งคืนที่ผ่านมาหลังจากที่พนังกั้นน้ำแตกก็ทำให้น้ำในแม่น้ำปิงไหลทะลักมาอย่างรุนแรง และรวดเร็ว เข้าท่วมเต็มพื้นที่ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงน้ำเข้าจนสูงระดับเอว

ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการร้านค้าเนื่องจากเป้นย่ายการค้าหลักของเมืองเชียงใหม่ บางส่วนไม่สามารถย้ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ออกไปได้ทันทำให้ถูกน้ำท่วมสูงบางคันเกือบมิดหลังคา รถจักรยานยนต์ก็จมน้ำและต้องหาเชือกมาผูกรั้งเอาไว้ไม่ให้ไหลไปกับน้ำ

และน้ำที่ไหลมาตามถนนช้างม่อยตัดใหม่ยังคงมีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ชาวบ้านที่เข้าออกต้องระมัดระวังในจุดนี้เป็นพิเศษ และระดับน้ำยังทรงตัว และเพิ่มระดับขึ้นประมาณชั่วโมงละ 3-5 เซนติเมตรอยู่ บางส่วนที่ยังท่วมไม่ถึงก็ต้องเร่งทำพนังกั้นน้ำไม่ให้เข้าบ้านเรือน

ด้าน นางธนารัตน์ ทรัพย์คง เจ้าของร้านธนาโอชา ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าเก่าชื่อดังบนถนนช้างม่อย เผยว่า เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นน้ำท่วมใหญ่ในรอบนับ 100 ปี จากที่เคยฟังพ่อแม่มาจนประสบกับตนเองที่มีอายุครบ 60 ปี พบว่ารุนแรงกว่าเมื่อปี 2548 และปี 2554 ซึ่งตอนนี้เข้าเพียงระดับทางเท้าและปริ่มหน้าร้านเท่านั้น

แต่รอบนี้ขึ้นสูงและเร็วแรง และสูงกว่าเก่าเกือบ 1 เมตรตอนนี้เข้าถึงบันไดชั้น 2 ของร้านแล้ว ขนของบางส่วนไม่ทันก็จมน้ำเสียหาย ขณะเดียวกันออร์เดอร์ที่มีการสั่งไว้ไปจัดเลี้ยงก็ต้องยกเลิกเนื่องจากไม่สามารถทำให้ลูกค้าได้ รอบนี้ถือว่าหนักที่สุดเท่าที่เคยเกิดมา ย่านใจกลางการค้าได้รับความเสียหายอย่างหนัก

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ