น้องโวย ร.พ. พี่ชายล้มหัวฟาดพื้น-โคม่า ปล่อยนอนรอจนรักษาไม่ทัน สุดท้ายสิ้นใจ แถมวินิจฉัยสาเหตุมั่ว ยึดประวัติที่เคยรักษาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว มาลงเป็นสาเหตุ

วันที่ 8 ก.พ.65 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก น.ส.วีรรณ ยุวะบุตร น้องสาวของ นายประดิษฐ์ ยุวะบุตร อายุ 52 ปี หลัง นายประดิษฐ์ เกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม แต่แพทย์กลับไม่รักษาปล่อยให้นอนจนอาการโคม่าแล้วเสียชีวิต

น.ส.วีรรณ กล่าวว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา พี่ชายตนลื่นล้มศีรษะกระแทกพื้นบ้าน ตนจึงได้โทรเรียกรถพยาบาลของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งให้มารับตัว พอไปถึงโรงพยาบาล ตนก็ได้แจ้งกับแพทย์เวรว่า พี่ชายลื่นล้มหัวกระแทกพื้นอย่างแรง แต่แพทย์เวรไม่ยอมรับฟังและปล่อยให้พี่ชายนอนรอรับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน โดยไม่ทำอะไรเลยแม้แต่การตรวจเอ็กซ์เรย์ จนกระทั่งพี่ชายเริ่มมีอาการชักเกร็ง แพทย์ก็ได้สั่งยาแก้ชักเกร็งให้เท่านั้น

กระทั่งเช้าวันถัดมา ตนพยามปลุกพี่ชาย แต่ก็ไม่รู้สึกตัว ทางโรงพยาบาลจึงได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลอำนาจเจริญ เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาล แพทย์แจ้งกับตนว่าพี่ชายมีเลือดคลั่งในสมองและเสียชีวิตในเวลาต่อมาของวันเดียวกัน ตนรู้สึกแปลกใจและสงสัยว่าทำไมทางโรงพยาบาลแรก ไม่รักษาพี่ชายเลย หากพยามรักษาพี่ชายของตนก็อาจจะมีชีวิตรอด

หลังจากที่พี่ชายเสียชีวิตก็ได้นำศพมาเพื่อบำเพ็ญกุศลที่บ้าน แต่ทางโรงพยาบาลไม่ให้ใบยืนยันการเสียชีวิตอะไรกลับมาเลย ตนจึงสอบถามโรงพยาบาลอำนาจเจริญ และทางโรงพยาบาลอำนาจเจริญก็ได้ออกใบสาเหตุการเสียชีวิตมาให้ โดยให้ตนไปติดต่อยังโรงพยาบาลแห่งแรกเพื่อขอใบส่งตัวคนไข้และสาเหตุด้วย แต่ทางโรงพยาบาลกลับสรุปสาเหตุการเสียชีวิตว่าเกิดจากอาหารชักเกร็ง ทั้งๆ ที่ยังไม่มีการตรวจใดๆ เลย โดยสรุปสาเหตุการตายจากการเพียงแค่อ่านประวัติผู้ป่วยที่เคยมีการป่วยเป็นโรคชักเกร็งเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น ตนจึงอยากฝากเป็นอุทาหรณ์และขอให้เคสพี่ชายของตนเป็นเคสสุดท้ายที่เกิดขึ้นแบบนี้

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกับบ้านผู้เสียชีวิต ก็ทำให้ทราบว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาเลย มีผู้ป่วยที่เจ็บหนักเข้าไปรับการรักษา แต่ทางโรงพยาบาลกลับนิ่งเฉยไม่สนใจ ปล่อยให้ผู้ป่วยนอนรออยู่อย่างนั่น ไม่สนใจผู่ป่วยแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ โดยทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าเรื่องดังกล่าวอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจะได้มีการสอบถามไปยังแพทย์เวรในวันเกิดเหตุของทั้งสองโรงพยาบาลถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หากเป็นไปตามญาติกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้