น้องสาวคิมยัวะดีลต้านเกาหลีเหนือ – เอเอฟพี รายงานวันที่ 29 เม.ย. ว่า น.ส.คิม โยจอง น้องสาวของ นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ กล่าวเตือนว่าปฏิญญาวอชิงตันที่ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา และ ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ บรรลุความตกลงเพื่อต่อต้านเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 26 เม.ย.ที่ผ่านมา จะนำไปสู่อันตรายที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น
ทั้งยังกล่าวว่าเกาหลีเหนือเชื่อมั่นว่าการป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์หรือการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองซึ่งจะช่วยป้องกันประเทศจากการถูกโจมตี ควรได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
“ยิ่งศัตรูตายจากการซ้อมรบในสงครามนิวเคลียร์ ยิ่งมีการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในบริเวณใกล้เคียงคาบสมุทรเกาหลีมากเท่าไหร่ การใช้สิทธิในการป้องกันตนเองของเราก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น” น.ส.คิม โยจอง ระบุ
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือเผยแพร่ถ้อยแถลงจากน.ส.คิม โยจอง อีกว่าข้อตกลงดังกล่าวมีแต่จะส่งผลให้สันติภาพและความมั่นคงของเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและโลกตกอยู่ในอันตรายที่ร้ายแรงยิ่งขึ้น และเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้
น.ส.คิมยังกล่าวถึงนายไบเดน ผู้นำวัย 80 ปี ต่อกรณีวิจารณ์เกาหลีเหนือว่า “เป็นเรื่องไร้สาระจากคนแก่เลอะเลือน เขาไม่สามารถรับผิดชอบอะไรได้เลย… เขาเป็นคนแก่ที่ไม่มีอนาคต นี่มันมากเกินไปสำหรับเขาที่จะดำรงตำแหน่งที่เหลืออีก 2 ปี” ก่อนเรียกประธานาธิบดียุนว่า “คนโง่”
ขณะที่กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้ประณามคำพูดที่เกินจริงของน.ส.คิม โยจอง และว่าสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลใจและความคับข้องใจต่อการยับยั้งนิวเคลียร์ที่เข้มข้นขึ้นอย่างมากของเกาหลีใต้และสหรัฐ” และว่าการใช้ภาษาที่หยาบคายแสดงให้เห็นถึงความต่ำตมของเกาหลีเหนือ
ด้านนายชอง ซองชาง จากศูนย์ศึกษาเกาหลีเหนือแห่งสถาบันเซจง กล่าวว่าถ้อยแถลงของน.ส.คิม โยจอง อาจทำให้ความตึงเครียดทางทหารในพื้นที่รอบคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มขึ้นอย่างมากจนถึงระดับที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์ในปี 2560 ทั้งยังแสดงถึงการประท้วงอย่างรุนแรงต่อคำกล่าวของนายไบเดนที่ว่าเกาหลีเหนือจะเผชิญกับการสิ้นสุดของระบอบการปกครอง หากทำการโจมตีด้วยนิวเคลียร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- สหรัฐ-เกาหลีใต้ฉลุยดีล “ปฏิญญาวอชิงตัน” ส่งเรือดำน้ำติดนิวเคลียร์-รับมือคิม