จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เรื่องราว การเสียชีวิตปริศนาของพี่สาวของตนเอง พร้อมตั้งข้อสงสัยเพราะสภาพศพเปลือยกายไม่สวมเสื้อผ้า หลังเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะสีชังตัวคนเดียว โดยระบุข้อความว่า เปิดไทม์ไลน์พี่สาวผมครับ Timeline
พี่ดา ปรียาภรณ์ นิยมการ เสียชีวิตปริศนา ที่เกาะสีชัง วันที่ 31/05/67 สภาพศพเปลือยกายไม่สวมเสื้อผ้าใส่ยกทรงมีรอยฉีกขาดตัวเดียว ผมจะไล่ไทม์ไลน์ที่ผมหามาได้ดังนี้ครับ
ตอนสายนั่งเรือมาถึงเกาะสีชังตอน 10.45 น. เช่ามอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นจากเรือ จ่ายตังสด 250 บาท พอดี โดยภาพขับมอไซค์ในกล้องวงจรปิด ออกจากร้านเช่ามอไซค์จ่ายเงินสด ช่วงเวลาประมาณ 11 โมงเช้าของวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 มีข้อมูลจากพี่กู้ภัยว่า เกาะสีชังว่าจ่ายเงินสดแต่ไม่ทราบว่าจ่ายแบงค์อะไร การเช่ารถเป็นการเช่าแบบบุคคลไม่ใช่ร้านเช่า
ช่วงบ่ายไปนั่งกินเบียร์ที่ร้านอาหารเกาะสีชัง ตั้งแต่ 11.30-14.30 มีพนักงานมานั่งคุยด้วย ไม่มีเงินสด จ่ายเงินโอนทั้งค่าเบียร์ และค่าทิป 100 ก็โอนส่วนตัวให้พนักงาน หลังจากนั้น ไปซื้อเบียร์กระป๋องที่ร้านค้าป้าใกล้ร้านอาหารที่นั่งกินเบียร์ ร้านค้าอยู่ตรงข้ามโรงแรม
ที่ร้านอาหาร เวลา 13.00 พี่ดาคุยกับแฟนเวลาบ่ายโมงถึงบ่ายสองครึ่ง จากนั้นไทม์ไลน์หายไปช่วง 15.00 ไปจนถึง 16.08 ไปจอดรถที่ลานจอดช่องเขาขาดและก็เดินไป ก่อนจะหายไปในช่องเขาขาด จากนั้นเวลา 16.40 ส่งข้อความลาก่อนหาแฟนพี่ดาว่า ลาก่อนนะคนเก่ง และส่ง map ให้น้าว่าอยู่กลางทะเล 16.40 ในวันเดียวกัน
ลูกคนให้เช่ามอไซค์เจอรถ ช่วงเที่ยงคืนครึ่ง เจอที่ลานจอดรถ และบริเวณนั้นมีร้าน cafe ตำรวจให้ข้อมูลว่าพี่ดาไปจอดรถเวลา 16.08 แต่ map สุดท้ายที่ส่งให้น้าตอน 16.40 ระยะทางค่อนข้างไกล ถ้านั่งเรือปกติน่าจะเดินทางใช้เวลานานกว่านั้น หรืออาจจะใช้เรือเร็วไป ยังไม่รู้ว่าทำไมถึงส่ง map มาเฉยๆ คล้ายขอความช่วยเหลือ
เบื้องต้นตำรวจที่เกาะให้น้ำหนักว่าฆ่าตัวตาย แต่ญาติและเพื่อนๆ ไม่เชื่อ เพราะศพไม่ใส่เสื้อผ้า ใส่เสื้อในหลุดที่ฝั่งปิดหน้าอกไปอยู่ข้างหลัง ศพลอยจากช่องเขาขาดมาที่ท่ายายทิมประมาณ 5-6 กิโล
ไทม์ไลน์สำคัญคือคือจอดรถกี่โมง และกล้องเสียนานมั้ยบริเวณคอสะพาน หรือ พึ่งเสีย หรือดูย้อนหลังได้มั้ย ทุกเหตุการณ์ทุกสถานที่ที่พี่ดาไป มีพยานทุกคนทั้งหมด แต่ไม่เปิดเผยครับ
อย่างไรก็ตาม หลังที่โพสต์ถูกแชร์ออกไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก โดยเจ้าของโพสต์ก็เข้ามาแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “อดทนนิดนึงนะครับ แบงค์พยายามอยู่จะทำให้เต็มที่และเร็วที่สุด อยากเล่าให้ทุกคนฟังมากๆ แต่มันมีผลต่อรูปคดี ขอบคุณที่คอยส่งกำลังใจและคอยติดตามความคืบหน้ามาตลอดนะครับ”