สื่อสหรัฐรายงานเมื่อวานนี้ (16 ส.ค.) ว่า เด็กชายวัย 7 ปีในรัฐแคลิฟอร์เนียเสียชีวิตลง หลังจากที่ติดเชื้ออะมีบากินสมองจากการว่ายน้ำในทะเลสาบแห่งหนึ่งที่นอร์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย
รายงานของลอสแองเจลิส ไทมส์ระบุว่า ด.ช.เดวิด พรูอิท ซึ่งอาศัยอยู่ในเทศมณฑลเตฮามา เสียชีวิตด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้ออะมีบา (PAM) ซึ่งเป็นการติดเชื้อร้ายแรงในสมองที่พบได้ยาก โดยเด็กชายติดเชื้อหลังจากลงไปว่ายน้ำในทะเลสาบน้ำจืดแห่งหนึ่งเมื่อเดือนที่ผ่านมา ก่อนจะถูกส่งไปยังศูนย์การแพทย์ UC Davis เมื่อวันที่ 30 ก.ค. และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา
PAM เกิดจากเชื้ออะมีบาชนิดนีเกลอเรีย (Naegleria fowleri) หรือที่เรียกว่าอะมีบากินสมอง ซึ่งพบได้ในน้ำจืดอุ่นและดิน
“ผู้คนจะติดเชื้อหากน้ำที่มีอะมีบาพุ่งขึ้นจมูกอย่างรุนแรง” สำนักงานบริการสาธารณสุขเทศมณฑลเตฮามาระบุในการแถลงข่าวเมื่อต้นเดือนนี้ “เมื่อเชื้อเข้าทางจมูก บางครั้งอะมีบาสามารถเคลื่อนตัวไปยังสมอง และทำลายเนื้อเยื่อสมองได้”
รายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐระบุว่า ในระยะแรกของการติดเชื้อ อาการต่างๆ อาจพบได้ทั้งการปวดศีรษะรุนแรง มีไข้ คลื่นไส้ และอาเจียน แต่เมื่อการติดเชื้อแย่ลง อาการอาจพัฒนารุนแรงขึ้นเช่นคอเคล็ด มีอาการชัก หรือประสาทหลอนได้ โดยอาการดังกล่าวจะปรากฏขึ้น 1-9 วันหลังจากติดเชื้ออะมีบา
เนื่องจาก PAM เป็นกลุ่มโรคที่เกิดขึ้นได้น้อยมากและการติดเชื้อก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว จึงตรวจจับปรสิตในร่างกายได้ยาก โดยขณะนี้ยังไม่มีวิธีการใดที่สามารถวัดปริมาณอะมีบาในน้ำได้อย่างแม่นยำ
ตามรายงานของสำนักงานบริการสาธารณสุขเทศมณฑลเตฮามา มีการพบกรณีติดเชื้อดังกล่าวเพียง 10 รายในแคลิฟอร์เนียตั้งแต่ปี 2514 ซึ่งทางการแนะนำให้ผู้มีน้ำจืดอุ่นพุ่งเข้าจมูกในช่วง 10 วันที่ผ่านมาและมีอาการป่วย ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที