หนุ่มนึกว่าสิวขึ้นขา ลองบีบออกมาเป็นเส้นสีขาว ยาว 10 ซม. ยังไม่หมด สยองมาก รีบไปหาหมอทันที!
ตามรายงานพบว่า ชายชาวเวียดนามอายุ 45 ปี มีอาการชาที่ต้นขาซ้ายนานกว่า 10 วัน มีเม็ดเล็กๆ คล้ายสิวขึ้นที่ต้นขา ร่วมกับมีอาการบวม ร้อน แดง ปวด เขาคิดว่าสิวมีหนองจึงบีบออก เห็นปลายสีขาวผุดขึ้นมา จึงดึงมันออกมายาวประมาณ 10 ซม. ก่อนที่จะหัก และยังมีคงค้างอยู่ข้างในอีก ทำให้เขาเกิดความกังวล ไม่รู้ว่าร่างกายมีปัญหาอะไรหรือไม่ จึงตัดสินใจไปหาหมอ
เมื่อไปโรงพยาบาล แพทย์พบว่ายังมีส่วนสีขาวยื่นออกมาจากต้นขาของคนไข้ประมาณ 1 ซม. จึงใช้คีมดึงออกมาเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ ผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อพยาธิกีเนีย (GWD) เมื่อสืบประวัติทางการแพทย์พบว่าผู้ป่วยมักกินสลัดปลาดิบ กบพุดดิ้งเลือด และไม่ได้ถ่ายพยาธิมาหลายปีแล้ว
Dr.Hoàng Đình Cảnh ผู้อำนวยการสถาบันมาลาเรีย-ปรสิตวิทยาและกีฏวิทยา กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC) มีโครงการกำจัดโรคพยาธิกีเนียทั่วโลกภายในปี 2573 ปัจจุบันในแต่ละปีโลกตรวจพบผู้ติดเชื้อเพียงประมาณ 30-40 ราย ซึ่งมักพบในบางประเทศในแอฟริกา
รู้หรือไม่ ทุกเพศ-ทุกวัยสามารถติดเชื้อได้!
Dr.Đỗ Trung Dũng หัวหน้าภาควิชาปรสิตวิทยา สถาบันมาลาเรีย-ปรสิตวิทยาและกีฏวิทยา กล่าวว่า ระยะฟักตัวเมื่อติดเชื้อพยาธิกีเนียจะใช้เวลา 10-14 เดือน ดังนั้นภายใน 1 ปีหลังติดเชื้อ จะทำให้คนเรารับรู้อาการหรืออาการแสดงของโรคได้ยากมาก นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวอีกว่าคนทุกวัยสามารถติดเชื้อพยาธิกีเนียได้
เมื่อติดเชื้อพยาธิมังกรผู้ป่วยจะมีอาการดังนี้ แพ้อักเสบรุนแรงมาก ร้อน แดง เจ็บหลายจุด มักเกิดเฉพาะที่ในกล้ามเนื้อโครงร่างของร่างกายมนุษย์ หากเจาะเข้าไปในกระดูกสันหลังหรือข้อต่อแล้วตายตรงนั้น จะทำให้เกิดอาการข้อตึง โรคข้อเข่าเสื่อมกระดูกสันหลังเสื่อม กล้ามเนื้อกลายเป็นปูน และเป็นอัมพาต
วิธีรักษาเพียงอย่างเดียวในปัจจุบันคือการเอาพยาธิออก หากไม่ถูกดึงออกมาก็อาจทำให้เกิดฝีในบริเวณร่างกายมนุษย์ได้โดยผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวด้วยว่า ผู้ป่วยบางคนมักจะดึงมันออกเองโดยพลการ หักมันออกไปครึ่งหนึ่ง ทำให้ตัวอ่อนและสารพิษแพร่กระจาย สิ่งนี้อาจทำให้การอักเสบแย่ลง และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย เช่น การติดเชื้อ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดโรคกระดูกสันหลังอักเสบ
วิธีป้องกันการติดเชื้อพยาธิกีเนีย
สาเหตุของการติดเชื้อพยาธิกีเนีย เกิดจากการกินอาหารจำพวกสัตว์น้ำ เช่น กบ ปลา กุ้ง ดังนั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อควรกินดี ดื่มดี รักษาสิ่งแวดล้อมให้สะอาด ใช้อุปกรณ์แยกต่างหากในการเตรียมอาหารปรุงสุกและอาหารดิบ เช่น เขียง มีด เครื่องปั่น ชาม และจาน และทำความสะอาดมือหลังเตรียมอาหารดิบ
สุดท้ายนี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ไปพบแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ
- นศ.ปล่อยโฮ อายุแค่ 20 เป็นมะเร็งปากมดลูก หมอชี้สาเหตุ “กระดาษชำระ” ที่เลือกใช้
- ผัวเมียตรวจเจอ “มะเร็งตับ” ทั้งที่ไม่ดื่มเหล้า-สูบบุหรี่ หมอชี้สาเหตุ “ผลไม้” ที่กินประจำ