นิว ชัยพล เผยเส้นทางรัก 10 ปี จากเพื่อนสู่คู่ชีวิต

Home » นิว ชัยพล เผยเส้นทางรัก 10 ปี จากเพื่อนสู่คู่ชีวิต



นิว ชัยพล เผยเส้นทางรัก 10 ปี จากเพื่อนสู่คู่ชีวิต เตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ฟุ้งเปิดอู่ปุ๊ปติดปั๊ป แรงดีไม่มีตก ย้อนเล่าเคยเลิกกันเพราะความห่าง

นิว ชัยพล ควงภรรยาสาวนอกวงการ เมษา กิตติมา เปิดใจครั้งแรกกับการเตรียมตัวเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่

ตอนนี้กี่เดือนแล้ว ?

เมษา : ตอนนี้ 27 สัปดาห์ 6 กว่าๆ เกือบ 7 เดือน โชคดีมากไม่แพ้ท้องเลย ตอนนี้เริ่มมีความอึดอัดแล้ว เพราะท้องเราขยายขึ้นเยอะ

 

เห็นว่าเมษารู้ก่อนว่าเราท้อง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังหน่อย?

เมษา: รู้ก่อน เพราะตรวจก่อน เพราะคุณนิวไปทำงานที่ขอนแก่น จริงๆ เราอยากตรวจพร้อมเขา แต่ช่วงนั้นไม่แน่ใจรู้สึกเหมือนร่างกายมันเปลี่ยนแปลงผิดปกติ ท้องหรือเปล่า เลยลองไปซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจเอง 3 อัน หลายๆ ยี่ห้อ เพื่อความชัวร์ แล้วก็ลองตรวจดู ช่วงนั้นที่ตัดสินใจตรวจดูเพราะว่าใกลักับวันแม่ด้วย 12 สิงหา ถ้าท้องขึ้นมาจะได้เป็นข่าวดีบอกครอบครัวในวันแม่ด้วย แล้วเขาจะกลับมาวันที่ 10 เลยชิงตรวจก่อนเขากลับบ้าน

อันแรกผลออกมา?

เมษา : 2 ขีด

 

อันที่ 2 ต่อเลยมั้ย?

เมษา: ต่อเลยทันที ไม่น่าใช่ เพราะว่าไม่น่าใช่ ตอนแรกยังคุยกันเลยว่าไม่น่าเป็นไปได้

นิว : ไม่น่าติด เพราะเรามีเครื่องวัดการตกไข่เราดูแล้วว่ามันเลยไปแล้วมันจางไปแล้ว เราก็ทำใจแล้วว่าเดือนนี้ยังไงก็ไม่ติด เดือนหน้าแล้วกันไม่เป็นไร

แล้วอันที่ 2 ก็?

เมษา : ก็ติด แบบเร็วมาก

 

แล้วอันที่ 3 ต่อเลยมั้ย?

เมษา : ไม่ หยุดไว้ก่อน 2 อัน รอเขากลับมา ไม่โทรบอก เงียบเก็บไว้

นิว : ผมกลับมาถึงบ้าน 5 ทุ่มแล้วกำลังนอนบนเตียงไถโทรศัพท์ดูคลิปอะไรไป รอเขาเข้ามา แล้วเขาก็เดินเข้ามาวาง 2 อันนี้บนตัวผม แล้วผมก็อะไรวะคืออะไร เขาก็บอกว่าท้องแล้ว จริงๆพอมีเซ็นส์ว่ารู้ มันมีความตื้นตัน มีความดีใจ มันเป็นความรู้สึกที่บอกยาก

มีความห่วงมั้ยที่ภรรยาจะเริ่มท้องแล้ว?

นิว : รู้สึกไม่ห่วง แต่รู้สึกดีใจแต่เป็นการดีใจที่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันติ้นตันอย่างบอกไม่ถูก เรากำลังจะเป็นพ่อแล้ว

 

ลึกๆ ในใจรู้สึกเราแข็งแรงจังเลย?

นิว : ก็เดือนเดียวติด ดีใจที่ติดเร็ว เพราะว่าเราอยากจะมีลูกเร็วอยู่แล้ว

เมษา : จริงๆ เขาอยากมีมานานแล้ว เพราะเราแต่งงาน 18 ตุลา ปีที่แล้ว เขาอยากแต่งแล้วมีเลยแต่เรายังไม่อยากมี เราอยากใช้ชีวิตด้วยกันก่อน เพราะเพิ่งแต่งงานต้องปรับตัว แล้วเรื่องปีชงด้วย เพราะปีที่แล้วเป็นปีเสือ เราเกิดปีวอกกลัวลูกออกมาชงกับเรา เมื่อไหร่ที่คลอดหลังตรุษจีน นับเลยดีเดย์ เดือนนี้แหละฉันจะปล่อย

 

ก่อนหน้านั้นถือความเชื่อมาก ฝ่ายหญิงไม่ให้ฝ่ายชายโดนเตียงเขาเด็ดขาด?

นิว : ก่อนแต่งงานเริ่มคุยเรื่องขอแต่งงานเสร็จแล้ว วันที่ผมไปบ้านเขาไปกินข้าวอาจจะมีดื่มบ้าง ก็จะไม่กลับบ้านจะนอนบ้านเขา เขาก็ให้ผมนอนห้องรับแขก เตียงห้ามยุ่ง ห้ามแตะ ห้ามเข้าห้องนอนเขาเลย เพราะเขาถือมาก

เมษา : พอแต่งงานกันจะมีฤกษ์ปูเตียง ฤกษ์ส่งตัวที่เขามาทำพิธี เราก็รู้สึกว่าอยากให้มันเป็นวันแต่งงานเป็นต้นไป ก่อนหน้านั้นคุณห้ามมาโดน

ทำแบบนี้นานมั้ย?

นิว : ก็ก่อนแต่งงานตั้งแต่ มิถุนา ผมแต่งงานเดือนตุลา ก็ 4 เดือน

เมษา : โดนเตียงอื่นได้ ไปนอนด้วยกันบนโซฟาได้ แต่ต้องไม่ใช่เตียงอันนี้ที่จะเป็นห้องหอ

 

ตอนนี้รู้เพศหรือยัง บอกได้มั้ย?

เมษา : เพศชายค่ะ

 

จะคลอดต้องดูฤกษ์มั้ย เพราะก่อนแต่งงานยังห้ามแต่แตะเตียง?

นิว : ฤกษ์ของการคลอดลูกเราปล่อยตามธรรมชาติ คลอดธรรมชาติด้วย

เมษา : อยากคลอดธรรมชาติ แต่…

นิว : แต่ยกเว้นถ้าเด็กไม่กลับหัวหรือหมอแนะนำว่าต้องผ่า อันนี้เราจะดูฤกษ์ เรารู้สึกอยากให้ธรรมชาติเป็นตัวกำหนด เขาจะมาวันไหนก็แล้วแต่เขา

 

มีตั้งชื่อไว้หรือยัง?

เมษา : ชื่อยังไม่ได้ตั้งแบบฟันธงว่าจะให้ชื่อนี้ แต่เรามีเหมือนกลุ่มชื่อเป็นธีม ให้เกี่ยวข้องกับอะไร

 

คิดว่าจะมีลูกมากกว่า 1

เมษา : ใช่ อยากมีมากกว่า 1 ค่ะ 1 คนไม่พอ อยากมีขั้นต่ำ 2 คน มากสุด 4 คน แต่ไม่เอามากกว่า 4

นิว : อย่างน้อยมี 2 คนให้เขาเป็นเพื่อนกัน แล้วก็อยากมีทั้งชายทั้งหญิง คนหน้าก็จะลุ้นว่าอยากให้เป็นเพศหญิง แต่ก็ปล่อยตามธรรมชาติ

 

อยากได้แฝดมั้ย?

นิว : ผมอยากได้ น่าจะมันดี ถ้าเกิดท้องที่ 2 เป็นแฝด 3 มาน่าจะปิดอู่ได้เลย แต่ก็ไม่ได้ซีเรียสนะ เราจะไม่ทำ เราจะปล่อยตามธรรมชาติ

 

อยากได้แฝดแต่จะไม่ใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์แล้วจะเป็นไปได้เหรอ?

นิว : คุณแม่ คุณเมษาเขาเป็นแฝด ทำให้เรามีสิทธิ์ลุ้น

เมษา : แฝดแท้เลย แบบไม่ได้ทำ

มีแพ้ท้องบ้างมั้ย?

เมษา : ไม่มีเลย ไม่มีอาเจียนเลย มีเหม็นบางอย่าง เช่น กาแฟ แต่ไม่ชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว สิ่งที่แปลกคือของที่ชอบที่กลิ่นแรงๆ อย่างเช่นเมื่อก่อนเราชอบกินหม่าล่า ชาบู หรือ เนื้อวัวก็จะเหม็นมาก

นิว : ผมไม่มีอาการแพ้ท้องแทนเขาเลย แต่เมษาเขาจะตรงข้ามทุกอย่างเลย แต่อันที่ไม่ชอบเลยอย่างเช่นแซนวิช พิซซ่า อาหารฝรั่ง อยากกินทุกวัน ผมนี่งง

 

คบกันมากี่ปีแล้ว?

นิว : ถ้าตั้งแต่วันแรกที่เป็นแฟน ตุลาปีนี้ 10 ปี

 

ตอนแรกเจอกันเห็นว่าเป็นเด็กฝึกงานกับนักแสดง?

เมษา : เป็นเด็กฝึกงานที่ Acts channel เรียนอยู่ปี 3 ที่อเมริกา เราจะกลับบ้านแค่ปีละ 1 ครั้งตอนปิดเทอมใหญ่ๆ 3 เดือน เราเลือกมาฝึกงานที่ไทย ไม่งั้นไม่ได้กลับบ้าน แล้วก็ได้ที่ Acts Channel ก็เข้าไปฝึกงานตามปกติ เจอเขาเพราะเราถูกส่งไปตามกองเพื่อสัมภาษณ์สกู๊ป เจอเขาครั้งแรกคืองาน Grammy Wonderland

นิว : แล้วเขาก็มาสัมภาษณ์ผม แล้วก็เหมือนกันว่าผมเป็นเพื่อนกับเพื่อนสนิทเขา เขาก็เลยมาทักทายว่าเป็นเพื่อนคนเดียวกันนะ แล้วก็แยกย้าย เขาก็กลับไปเรียนต่อที่อเมริกา ผ่านไปไม่กี่เดือนปี 2012 มีรายการส่งผมไปอเมริกางานออสการ์ ก็ติดต่อกับเพื่อนเขาว่าผมจะไปแอลเอกับซานฟราน ให้เพื่อนเขาพาเที่ยว ปรากฏว่าเพื่อนเขาติดเรียนเลยส่งคนนี้มาแทน เขาก็พาเราไปเที่ยวนู่นนี่ แต่ไม่รู้สึกอะไรเลยนะ จนกลับมาก็ปรึกษากับเขาตลอด ผมมีแฟนเลิกกับแฟน

 

เมษา : ต่างคนต่างมีแฟน อันนี้คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีคอนแทคกันและกัน เป็นเพื่อนกันต่ออีกเป็นปีๆ เลย

นิว : ก็เป็นเพื่อนสนิทกัน ผมมีแฟนเลิกกับแฟน ก็ปรึกษาเขาเพราะเขาเป็นเพื่อนผู้หญิง พอตอนเขากลับมาไทยมีปัญหากับแฟน เลิกกับแฟน แฟนเขายังอยู่อเมริกา เป็นรักระยะไกล ก็มีปรึกษากัน มีนัดกินข้าวกัน สนิทกันไปเรื่อยๆ

 

ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนเมื่อไหร่?

นิว : ไม่รู้ จนกระทั่งผมอยากไปจีบผู้หญิงคนนึง เลยคุยกับเขาน้อยลง พอไปจับผู้หญิงคนนึง ผ่านไปอาทิตย์เดียวผมรู้สึกว่าบางสิ่งบางอย่างในชีวิตหายไป ความสบายใจมันหายไป คิดถึงการคุยกับคนคนนี้ ถ้างั้นเราก็หยุดไม่จีบต่อแล้ว มาคุยกับคนนี้

 

แล้วเรารู้สึกยังไง?

เมษา : อยู่ดีๆ เขาก็หายไปเลย ก่อนหน้านี้เลิกกับแฟน มีปัญหาก็ปรึกษาเรา แต่อันนี้หายไปเลย แล้วก็ไม่บอกด้วยนะว่าจะไปจีบอีกคนนึง แต่เรามารู้เองจากอย่างอื่นจากโซเชี่ยล ก็เลยอ๋อว่าที่หายไปเพราะไปจีบคนอื่นอยู่ ก็เลยโกรธ งอน แล้วก็ไปบอกเพื่อน เพื่อนก็เลยบอกว่ามึงชอบเขาแหละ

 

นิว : เพื่อนเราทั้งคู่บอกว่ามึงสองคนชอบกันนะ มีความรู้สึกดีต่อกันแต่ไม่รู้ตัว ก็มาง้อเขาพยายามคุยเหมือนเดิม ก็มีไปกินข้าวกัน ดูหนังกันเลยบอกเขาวันนั้นว่าลองคบกันดูป่ะ แต่พูดเบาๆ กลัวเขาได้ยินเพราะยังสองจิตสองใจ ไม่ใช่ไม่แน่ใจ แต่กลัวเสียเพื่อนดีๆไป ถ้าเกิดว่าแฟนไม่เวิร์ค เราถอยกลับมาไม่ได้แล้ว เราก็เลยสองใจว่าจะเป็นแฟนดีมั้ย เลยใช้ศาสตร์มูเตลูเข้ามา ตอนนั้นตี 2 ยี่สิบกว่า ผมเกิดวันที่ 27 เดือนกุมภา ถ้าเกิดผมยกนาฬิกาขึ้นมาเป็น 227 ผมจะพูดอีกครั้ง “ลองคบกันดูป่ะ” เขาก็เงียบ กลัวเหมือนกัน

 

เมษา : จริงๆ คือความคิดเหมือนกัน พอตอนเขาพูดเราเลยยังไม่ได้ตอบทันที แต่เรามาคุยกันก่อนว่าทำไมถึงอยากคบกับเรา ถ้าเกิดมันไม่เวิร์คขึ้นมามันจะเป็นยังไง

 

แต่มีอยู่ช่วงนึงเลิกกันหรอ เกิดอะไรขึ้น?

เมษา : ใช่ 2 ปี

 

นิว : ตอนนั้นคบกันได้ 5 – 6 ปี แล้วเขาไปเรียนต่อเมืองนอก พอเขากลับมาบางสิ่งบางอย่างหายไปปีนึงต้องมาจูนกันใหม่ คือเราอยากแต่งงานแล้ว แต่ว่าเขายังไม่อยากแต่งอยากใช้ชีวิตก่อน มันก็เลยมีปัญหาเกิดขึ้น พอมันไม่ตรงกันเราเลิกกันดีกว่า ห่างกันไป 2 ปี ระว่าง 2 ปีนั้นก็เสียใจ ทำใจไม่ได้ เป็นเพื่อนไม่ได้ ถ้าเกิดไม่มีเราแบบนี้ ขอไม่มีในชีวิตเลยแล้วกัน เลยบล็อกทุกทาง ทุกอย่าง ทุกการติดต่อ

แล้วเมษาบล็อกเขามั้ย?

เมษา : ไม่ได้บล็อก อยากเข้าไปดูมากเลย แต่เข้าไม่ได้

 

เมษาบอกว่าจริงๆ อยากมีเขาอยู่นะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้?

เมษา : เหมือนเขาไม่ใช่สำหรับปัจจุบันเหมือนอยู่ด้วยแล้วไม่มีความสุข ณ ตอนนั้น รู้สึกว่าเป็นคนที่ใช่สำหรับอนาคตในการที่จะแต่งงาน เห็นภาพนะ แต่ว่าตอนนั้นอยู่ด้วยไม่มีความสุข

 

แล้วกลับมาเจอกันยังไง?

นิว : ก็ทำรายการทางบริษัทของคุณแม่เมษาทำแคมเปญอยากแจกโชคให้กับผู้โชคดี แล้วเขาหาพิธีกรใหม่มาทำ บริษัทที่ติดต่อมาเขาก็บอกว่ารายการนี้เป็นของคาราบาวแดงแล้วทำคู่กับเมษา นิวจะทำมั้ยมีเวลา 15 นาที เพราะโปรเจ็คมันเริ่มแล้ว ถ้าไม่ทำเขาจะหาคนอื่นทำ

 

เมษาเป็นแผนที่เราวางไว้มั้ย?

เมษา : ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวกับเราเลย เราไม่ได้เลือกเขา เราแค่ถูกวางตัวว่าจะเป็นพิธีกร ให้เป็นตัวแทนของแบรนด์แล้วอยากปรับลุคด้วย ส่วนในแง่ของรายการเป็นในส่วนของการตลาดบริษัทเขาจัดการ เราไม่ได้รู้เรื่องเลย เรารู้ว่าเขาเลือกนิว เรารู้ในที่ประชุม

 

เจอครั้งแรกเมื่อไหร่?

เมษา : วันโปรโมทเลย

นิว : เราอยากทำเพราะเราอยากทำพิธีกรที่เป็นเกมส์โชว์ แล้วเราอยากทำรายการสด พี่ที่ทำรายการนี้เขาเก่งมากเรื่องทำพิธีกร ถ้าเราได้ประสบการณ์นี้จะดีมาก นั่นคือในเรื่องของการทำงาน แต่ในชีวิตจริงถ้าเราก้าวข้ามผ่านที่จะเจอเขาได้ เราก็จะก้าวได้แล้ว พร้อมเริ่มต้นใหม่

 

เจอครั้งแรกเป็นไง?

นิว : เงียบ หันหลัง ไม่คุยกันเลย

เมษา : พอเราจะทัก เขามองเราเป็นอากาศ ทำเป็นมองไม่เห็น

 

จากวันนั้นมามีเบบี๋ได้ยังไง อะไรมันเปลี่ยน?

นิว : กำแพงของเราก็ทลายลงไป เพราะเราตั้งกำแพงว่าเราจะไม่เป็นเพื่อน แต่เราเจอกันทุกอาทิตย์ มันก็ต้องเริ่มคุยกันมากขึ้น ต้องยอมรับว่า 2 ปีที่หายไป ไม่มีวันไหนที่ผมไม่คิดถึงเขา ย้อนไปตั้งแต่วันแรกเมื่อย้อนกลับไป 2013 ไม่มีวันไหนที่ผมไม่รักเขา

 

“ตอนเลิกกันผมก็รักเขาตลอด 2 ปี มีใครเข้ามาใหม่ผมก็พยายามเปิดใจแล้ว แต่พอรู้สึกว่ายังคิดถึงเขาอยู่ก็จะบอกว่าขอโทษนะ เรายังคิดถึงเมษาอยู่ ไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับใคร พอไปถึงช่วงนึงเราคุยกับเขาไปเรื่อยๆ กำแพงเริ่มทลาย ความรู้สึกดีๆมันเริ่มกลับมา เราก็บอกเขาว่าถ้าจะกลับมาเป็นแฟนกัน กลับมาคบกัน คือคบแล้วแต่งงานนะถ้าคบแบบลองดูอีกทีนึง แบบนี้ไม่คบแล้ว เสียเวลาชีวิต”

 

พอตัดสินใจคบกันแล้ว ตัดสินใจว่าต้องแต่งงาน ?

นิว : พอคบกันก็รู้สึกว่าทุกอย่างมันดีขึ้น เราก็ไม่รอช้า คบกันไม่กี่เดือนขอแต่งงานเลย

เมษา : เซย์เยสเลย ตอนที่ขอเหมือนทุกอย่างมันใช่แล้ว เหมือนแยกย้ายกันไปเพื่อที่จะเติบโต เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น อะไรที่ดีอยู่แล้วก็ดี อะไรที่ไม่ดีก็เหมือนไปปรับกันมา จนมันลงตัวมากๆ จนเป็นโมเม้นท์ที่ใช่ ก็เลยเซย์เยสไปเลย

รักมากมั้ย?

นิว : รักมากครับ รักมากที่สุดในชีวิต เราให้ทุกอย่างกับเขาได้ ตั้งแต่วันที่แต่งงานเราก็บอกเขาอย่างนั้น เราเป็นคนสองคนที่มาอยู่ด้วยกัน บางสิ่งบางอย่างคิดไม่เหมือนกัน เราก็ขอโทษในบางอย่างที่เราทะเลาะกันในบางเรื่อง แต่ในสิ่งที่เราทะเลาะกันเรารู้กันอยู่แล้วว่าเราอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กัน

ติดตามชมได้ในรายการคุยแซ่บ Show ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา13.15-14.15 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ