“นิวยอร์ก-สิงคโปร์” รั้งแชมป์ร่วมเมืองที่มีค่าครองชีพ “แพงสุด” ในโลก
บีบีซีรายงานการจัดอันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประจำปี 2565 ของอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (อีไอยู) โดยสำรวจและเก็บข้อมูลจาก 172 ประเทศทั่วโลก ปรากฏว่า “นิวยอร์ก” มหานครของสหรัฐอเมริกา คว้าอันดับ 1 เป็นครั้งแรก และรั้งตำแหน่งแชมป์ร่วมกับสิงคโปร์ ส่วนกรุงเทล อาวีฟ ประเทศอิสราเอล แชมป์เก่าปีที่แล้วได้อันดับ 3 ในปีนี้
จากรายงานการจัดอันดับระบุว่า ค่าครองชีพในเมืองใหญ่ในปีนี้เพิ่มขึ้นถึง 8.1% สาเหตุหลักมาจากสงครามในยูเครน ผลกระทบยืดเยื้อจากโรคโควิด-19 อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี รวมถึงเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ค่าครองชีพของนครนิวยอร์กสูงที่สุดในโลก ขณะที่นครลอสแองเจอลิส และนครซานฟรานซิสโก เมืองใหญ่ในสหรัฐ ติดอันดับต้นๆ ของโลกเช่นกัน
ส่วนนครอิสตันบูล แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อของตุรกี มีค่าครองชีพเพิ่มขึ้นถึง 86% กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เพิ่ม 64% และกรุงเตหะราน ของอิหร่าน ปรับตัวสูงขึ้น 57% ขณะที่กรุงมอสโก ของรัสเซีย มีค่าครองชีพเป็นอันดับที่ 37 พุ่งพรวดจากอันดับที่ 88 เมื่อปี 2564 เพราะได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกจากการรุกรานยูเครน
ด้านนายอุปัสนา ดัต หัวหน้าฝ่ายจัดทำรายงานค่าครองชีพของอีไอยู กล่าวว่า ปัญหาหลักที่ทำให้ค่าครองชีพในปีนี้สูงขึ้นคือ สงครามในยูเครน การคว่ำบาตรรัสเซียในประเทศแถบตะวันตก นโยบายโควิดเป็นศูนย์ของจีน รวมถึงอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น และค่าเงินที่แข็งค่ามากขึ้น ส่งผลให้ค่าครองชีพของ 172 เมืองในปีนี้เพิ่มสูงสุดในรอบ 20 ปี
10 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงสุดของปี 2565 ได้แก่
1. นิวยอร์ก-สิงคโปร์
3. เทล อาวีฟ
4. ฮ่องกง-ลอสแองเจอลิส
6. ซูริก
7. เจนีวา
8. ซานฟรานซิสโก
9. ปารีส
10. ซิดนีย์-โคเปนเฮเกน
และ 10 อันดับเมืองที่มีค่าครองชีพต่ำที่สุดของปี 2565 ได้แก่
161. โคลัมโบ-บังกาลอร์-แอลเจียร์
164. เจนไน
165. อาห์มาดาบัด
166. อัลมาตี
167. การาจี
168. ทาชเคนต์
169. ตูนิส
170. เตหะราน
171. ตริโปลี
172. ดามัสกัส