“นิค-คุณาธิป” เล่าย้อนชีวิต ป่วยซึมเศร้า เผยอาการขั้นหนักสุด อัพเดทรัก อยากแต่งแล้ว แต่ต้องรอสักระยะ เพราะน้องยังเด็ก เผยผ่านด่านพี่พชร์แล้ว

เป็นอีกหนึ่งคนที่มีภาวะเป็นโรคซึมเศร้า และรักษาตัวมาสักระยะหนึ่งแล้ว สำหรับ ‘นิค-คุณาธิป ปิ่นประดับ’ นักแสดงวัยรุ่นชื่อดัง

วันที่ 6 ก.พ.66 ที่ ลานกิจกรรม ชั้น M – Paris, Terminal21 อโศก กรุงเทพมหานคร มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องหุ่นพยนต์ นิค ได้เดินทางมาร่วมงาน และได้ให้สัมภาษณ์อัพเดตอาการป่วยซึมเศร้า

นิค เผยว่า “ณ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้หาย ยังเป็นอยู่ รวมถึงแพนิค หรือบางวันชีวิตไม่มีความสุข จริงๆ ผมเป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว คุณแม่ก็มีพาไปหาหมอ แต่ที่หนักขึ้นคือหลังจากที่เราโดนข่าวดราม่าต่างๆ (หนักสุดช่วงไหน?) หนักตั้งแต่ช่วงที่ทะเลาะกับพี่พชร์ ที่เป็นข่าวว่าทะเลาะกัน ก็ดราม่ามาเรื่อยๆ”

“เป็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่เป็นอ่อนๆ (เข้ากระบวนการรักษาจริงจังเมื่อไหร่?) เมื่อประมาณปีที่แล้วที่ให้คุณแม่พาไปหาหมอ (รักษาถึงขั้นไหนแล้วตอนนี้?) เขาจะมียาให้กิน แต่ส่วนตัวผมกินยาแล้วจะทำงานไม่ได้ ก็จะเลือกวิธีไปพูดคุยมากกว่า (เอฟเฟ็กต์กินยาจะเป็นยังไง?) จะเบลอ มีทีหนึ่งกินยาแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ จะจอดรถแล้วคิดว่าเอาขาตั้งลงแล้ว ที่ไหนได้ล้มเลย เวลาถ่ายงานมันก็จะเบลอๆ หน่อย”

ก็เลยเลือกที่จะปรึกษาจิตแพทย์?
“ใช่ครับ (ตอนนี้ดีขึ้นมากแค่ไหน?) ดีขึ้นกว่าเมื่อสิ้นปีที่แล้ว (มีเรื่องกระทบจิตใจหนักเลย?) ช่วงดราม่านั้นมีคนด่าเยอะแยะไปหมดเลย (ทำอะไรก็โดนด่า?) ใช่ๆ”

เลยตัดโซเชียลไปพักหนึ่ง?
“ถ้าเกิดอ่านมันจะยิ่งรู้สึกแย่ หลังๆ ก็เริ่มไม่อ่าน ก็ปล่อยชิลชิล ชีวิตก็มีความสุขดี ใครที่เขาด่าที่เขาไม่รู้จักเราจริงๆ ก็ปล่อยให้เขาด่าไป (ไม่อ่านก็ดีขึ้น?) ดีขึ้นครับ อย่าไปอ่านคอมเมนต์ แต่บางทีมันยาก เราไม่ได้แต่ก็มีคนส่งมาให้อ่าน”

ดึงตัวเองยังไงบ้าง?
“พยายามไม่คิดถึงมัน พยายามหาอะไรทำให้สบายใจ เมื่อปีที่แล้วคนที่ด่าผมก็ฟ้อง (จัดการไปแล้ว?) เรียบร้อย (เยอะไหม?) ก็เยอะ แต่พอถึงเวลาเขาก็ขอโทษ เราก็ยกโทษให้เขา แต่ก็มีที่ไม่ได้ยกให้ที่รุนแรงเกินไป (มีทั้งขอโทษและจ่ายเงิน?) มีครับ”

ทุกวันนี้ยังมีคนด่าอยู่ไหม?
“ไม่ค่อยแล้วครับ ก็สบายใจขึ้นนะครับ ถ้าเกิดผมไม่เห็นมันก็โอเค แต่พอไปเห็นมันก็จะมีความไม่เข้าใจอยู่”

แนะนำคนที่เจอในจุดที่เราเจอหน่อย?
“จริงๆ แนะนำยากนะ ตัวผมเองยังยากเลย ถ้าให้แนะนำก็จะบอกว่าพยายามอย่าเอาตัวเองไปอยู่ในที่ไม่มีความสุข เราชอบอะไรก็ทำมัน อย่าอยู่คนเดียว อยู่คนเดียวโรคนี้มันทำให้ยิ่งแย่ อยู่กับคนที่รักและเข้าใจเรา”

เลือกไม่กินยา หมอแนะนำอะไรบ้าง?
“มีช่วงที่ผมไปหาหมอ และมีช่วงที่ผ่านมาที่ดราม่า ผมก็ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะผมคิดว่าก็ไม่ได้อะไร”

อาการหนักสุดขั้นไหน?
“ผมหนีสังคม ตื่นคน ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็น เวลาเจอคนก็จะทำตัวไม่ถูก ก็หนีสังคมไปเลย”

คนรอบข้างที่เขาเห็นพฤติกรรมเรา?
“มีแฟนที่เขาคอยให้กำลังใจ คอยพูดคุยให้สบายใจ (เขาคือกำลังใจ?) แฟน แม่ ครอบครัว”

กับแฟนคนนี้ รบกันกี่ปีแล้ว?
“2 ปีกว่า จะ 3 ปีแล้ว แฮปปี้ดีครับ ล่าสุดผมได้พาไปแนะนำให้พี่พชร์รู้จัก พี่เขาก็ชอบ อย่างเวลานัดไปเดินจตุจักรพี่เขาก็จะบอกนิคมึงเอาแฟนมาด้วยสิ น่ารัก (เข้ากับพี่พชร์ได้?) ลบภาพพี่พชร์สมัยก่อนไปเลย ผมก็แฮปปี้มากเลย มีความสุขมากช่วงนี้”

เรียกว่าผ่านด่านพี่พชร์?
“ผ่านครับ (ต้องปรับอะไรกันอีกเยอะไหม?) ไม่มีแล้วครับ ผ่านการปรับกันมาแล้วครับ เข้าใจกัน (อารมณ์เราสวิง เขารับมือได้ดี?) เขาเข้าใจครับ บางทีผมสงสารเขานะ คนที่อยู่ใกล้ตัวผมน่าสงสารทุกรนไม่ว่าจะเป็นแม่ ครอบครัว หรือแฟน บางทีเราไม่ได้ตั้งใจจะเหวี่ยง ผมก็พยายามปรับตัวครับ”

เหวี่ยงแฟนด้วยหรอ?
“มีบ้างครับ ถามว่าถึงขั้นไหน ขั้นไม่มีเหตุผลเลยครับ บางทีหงุดหงิดทั้งๆ ที่ไม่มีอะไรหงุดหงิด (เคยเผลอลงมือไหม?) ไม่เคยครับ”

แต่รู้วิธีการจัดการอารมณ์ตัวเองใช่ไหม?
“หลังๆ ไม่มีเหวี่ยงแล้วครับ เรารู้ว่าที่เราทำไปมันเป็นเพราะโรค (แฟนเราเข้าใจและรับมือได้?) ใช่ๆ เขาใจเย็นครับ (โชคดีที่เจอคนนี้?) โชคดีครับ ก็พากันทำงาน ผมก็ให้เขามาเป็นผู้จัดการด้วย”

พร้อมแต่งเลยไหม?
“ก็อยากอยู่ แต่เก็บเงินก่อน ผมคบกับใครผมมั่นใจทุกคนเลยนะ คบใครก็อยากให้เป็นคนสุดท้ายจริงๆ (ติดขัดอะไรนอกจากจะเก็บเงิน?) น้องเขายังเด็กอยู่ครับ น้องเพิ่งจะ 23 อาจจะต้องรออีกสักระยะหนึ่งครับ”