“นิกร” ย้ำ กฎหมายเลือกตั้ง ต้องเสร็จก่อน 15 ส.ค. มั่นใจ กกต.เอาสูตรปาร์ตี้ลิสต์หาร 100 ชี้ หาร 500 ปัญหาอื้อ กระทบมาตราอื่น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการจัดทำกฎหมายลูก ว่า เหลือเวลาอีกไม่มาก ต้องทำให้เสร็จก่อนวันที่ 15 ส.ค. หากไม่เสร็จตามรัฐธรรมนูญต้องกลับไปใช้ในร่างเดิม คือ ร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเป็นการหาร 100
นายนิกร กล่าวต่อว่า แต่หากเราดึงข้ามไปแปลว่าสภาทำงานไม่เสร็จ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควร จะออกไปทางใดทางหนึ่งก็ต้องเสร็จ และต้องส่งไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อรอกกต.เสนอความเห็นกลับมา โดยจะหาร 100 หรือหาร 500 ก็ค่อยว่ากัน
เมื่อถามว่า หลังจากสภามีการพลิกมติของกมธ.เสียงข้างมาก จากสูตรหาร 100 เป็นหาร 500 จะมีการเดินหน้าต่ออย่างไร และจะมีการปรับแก้มาตราใดหลังมาตรา 24 ที่กระทบหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตอนที่แก้ ตนได้เตือนแล้วว่าจะเกิดปัญหา ทั้งนี้ หากมีคนโยงไปถึงส.ส.พึงมี ก็จะมีการพ่วงเป็นหาร 500 ซึ่งเมื่อหาร 500 ก็จะสัมพันธ์กันไปหมด
นายนิกร กล่าวต่อว่า แต่หากมีการเกิดใบแดงขึ้น ก็จะมีส.ส.หายไป 1 คน ซึ่งเมื่อหายไป 1 คน ที่แบ่งไว้ว่าพึงได้ ก็จะเคลื่อนไปหมด ซึ่งจะทำให้มีปัญหามาก และขณะนี้เรายังเหลืออีก 8 มาตราที่ต้องพิจารณา โดย 2-3 มาตราที่เหลือจะมีปัญหา ซึ่งปัญหาในเรื่องดังกล่าวกมธ.เสียงข้างน้อยไม่ได้มีการเตรียมไว้ตั้งแต่ตอนนั้น และข้ามไปที่มาตรา 24 เลย ดังนั้น จะกลับไปที่มาตรา 23 ไม่ได้
นายนิกร กล่าวว่า ในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณากฎหมายลูกในวันพรุ่งนี้ (26 ก.ค.) กมธ.จะไม่สามารถเรียกประชุมก่อนหน้านี้ได้ เพราะถือว่าทำงานเสร็จไปแล้ว และสภาจะต้องมีมติ โดยรัฐสภาให้กมธ.ไปคุยกันนอกรอบ ซึ่งจะไปแก้อย่างไรก็ไม่ทราบ ขอย้ำว่าต้องทำให้เสร็จก่อนวันที่ 15 ส.ค. อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่ากกต.มีโอกาสที่จะกลับมาหาร 100 มากกว่า เนื่องจากกกต.เสนอให้มีการใช้ 100 หารมาตลอด
นายนิกร กล่าวต่อว่า หากมีปัญหาที่กกต.ชี้ว่าไม่สามารถที่จะปฏิบัติได้ ก็จะต้องกลับไปหาร 100 เหมือนเดิม หากกกต.แย้งกลับมา สภาจะมี 2 ทาง คือ สภาจะเห็นตามกกต. โดยสภาจะมีเวลาแก้ไขภายใน 30 วัน หรืออีกทาง คือ ยึดตามมติสภาเหมือนเดิม ด้วยการหาร 500 หากยืนยันตามนั้นก็จะไปเจออีกด่าน คือ การเสนอให้มีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ โดยมีกลุ่มที่รอยื่นศาลรัฐธรรมนูญอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มฝ่ายค้านและกมธ.ที่เห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า กรณีที่มีความเห็นว่าระบบเลือกตั้งจะกลับมาใช้บัตรใบเดียว ตามข้อกฎหมายสามารถเป็นไปได้หรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตามกฎหมายสามารถทำได้ แต่ในทางการเมืองนั้นทำไม่ได้ ซึ่งในทางกฎหมายก็เป็นไปได้ยาก เพราะเวลาของสภาเหลือน้อย ทั้งนี้ หากมีการแก้ก็จะต้องมีการเสนอร่างเข้ามาใหม่และจะต้องมีการตั้งกมธ. รวมถึงจะต้องมีการแก้กฎหมายลูกอีก แต่ที่ตนเห็นว่าทำไม่ได้ คือ ในทางการเมือง เราจะไปบอกประชาชนอย่างไรที่จะกลับไปเป็นเช่นนั้น และทางส.ว.ก็คงไม่กล้า เพราะไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเขา เนื่องจากเป็นการเลือกตั้งของส.ส.
นายนิกร กล่าวว่า อีกทั้งพรรคเล็กต้องใช้รายชื่อ 100 คนในการเสนอเข้ามาใหม่ ซึ่งตนก็เห็นว่าไม่พอ และพรรคการเมืองอื่นก็มีการแก้เป็นบัตร 2 ใบ อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าเวลาที่เหลืออีก 2 วัน คือ วันที่ 26-27 ก.ค. กฎหมายลูกจะเสร็จไม่ทางใดทางหนึ่ง ซึ่งกฎหมายพรรคการเมืองไม่มีปัญหาอะไรมาก ปัญหาเดิมที่เรามี คือ ความเห็นของ ส.ว. ในการทำไพรมารีโหวต