สำหรับกีฬายิมนาสติก (ในอดีต) “Perfect 10” หมายถึง คะแนน 10 เต็ม 10 อันหมายถึงคะแนนสูงสุดของการแข่งขัน
ตลอดระยะเวลาหลายสิบปีของประวัติศาสตร์โอลิมปิก เกมส์ ไม่เคยมีใครทำแต้ม “10.00” คะแนน กระทั่งการมาถึงของหญิงสาววัย 14 ปี
นี่คือเรื่องราวของ นาเดีย โคมานิชี สาวน้อยมหัศจรรย์จากโรมาเนีย นักยิมนาสติกหญิงคนแรกที่ทำเพอร์เฟคต์สกอร์อันน่าเหลือเชื่อ จนหน้าจอสกอร์บอร์ดไม่สามารถแสดงคะแนนของเธอออกมาได้
เด็กสาวมหัศจรรย์
นาเดีย โคมานิชี ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ปี 1961 ที่เมืองโอเนสติ ประเทศโรมาเนีย เธอมีนิสัยซุกซนตั้งแต่เด็ก และชอบปีนป่ายต้นไม้เป็นประจำ แม้ผู้ใหญ่จะคอยห้าม แต่นาเดียสร้างความประหลาดใจ ด้วยการปีนสู่ยอดไม้แทบทุกครั้ง
ความตื่นเต้น คือสิ่งที่นาเดียตามหาตลอดชีวิตวัยเด็ก และไม่มีสิ่งใดตอบโจทย์ความต้องการของเธอได้มากกว่า “กีฬายิมนาสติก” เมื่ออายุได้ 6 ขวบ เธอจึงเข้าเป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนยิมนาสติกประจำเมือง หลังได้รับการชักชวนจาก เบลา คาโรลีย์ โค้ชหนุ่มวัย 19 ปี ที่จะกลายเป็นบุคคลสำคัญในชีวิตของเธอ
Photo : www.gsp.ro
“ผมเดินทางตามโรงเรียนอนุบาล เพื่อค้นหานักกีฬาสำหรับทีมยิมนาสติกของผม เมื่อไปถึงโรงเรียนแห่งหนึ่ง ผมถามเด็ก ๆ ว่า ‘มีใครตีลังกาแบบล้อเกวียนได้บ้างไหม ?'” คาโรลีย์ เล่าถึงวินาทีที่เขาพบกับสาวน้อยมหัศจรรย์
“เด็กผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ด้านหลังยกมือขึ้นมา พวกเธอบอกว่า ‘พวกเราทำได้ คุณอยากดูไหม’ และนั่นคือครั้งแรกที่ผมได้พบกับนาเดีย”
คาโรลีย์ค้นพบพรสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในตัวนาเดีย ร่างกายของเธอมีศักยภาพแทบทุกอย่างสำหรับนักยิมนาสติก ไม่ว่าจะเป็น ความแข็งแกร่ง, ความคล่องแคล่ว หรือ ความทนทาน ขาดไปเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ ความหยืดหยุ่น
การฝึกซ้อมตามสไตล์ประเทศคอมมิวนิสต์จึงเริ่มต้นขึ้น คาโรลีย์ ฝึกฝนนาเดียอย่างหนัก เพื่อพัฒนาให้เธอเป็นสุดยอดนักกีฬาดั่งใจหวัง
Photo : weheartit.com
นาเดียตอบรับความต้องการของโค้ช ด้วยการรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเองอย่างจริงจัง ทุกครั้งที่คาโรลีย์สั่งให้เธอวิดพื้น 10 ครั้ง เธอจะทำ 15 ครั้ง และเมื่อคาโรลีย์สั่งให้เธอโหนบาร์ 5 รอบ เธอจะทำอย่างน้อย 7 รอบ
ปี 1970 นาเดียในวัย 9 ขวบ เริ่มต้นลงแข่งขันยิมนาสติกระดับชาติเป็นครั้งแรก ในฐานะสมาชิกทีมกีฬาเมืองโอเนสติ โดยแต่ละรายการที่เข้าร่วม เธอต้องแข่งขันกับนักกีฬาที่มีอายุสูงกว่า และประสบการณ์เยอะกว่า
แต่ปัจจัยเหล่านั้นไม่เคยทำให้นาเดียเสียเปรียบในการแข่งขัน เธอคว้าเหรียญทองจากรายการชิงแชมป์เยาวชนแห่งชาติ ในปีดังกล่าว ส่งผลให้นาเดียเป็นนักกีฬายิมนาสติกชาวโรมาเนียอายุน้อยที่สุด ที่เคยคว้าชัยชนะในรายการชิงแชมป์แห่งชาติ
ไล่ล่าความสำเร็จ
หลังจากคว้าตำแหน่งแชมป์แห่งชาติ นาเดียก้าวสู่ความสำเร็จในระดับที่ใหญ่ขึ้นอย่างช้า ๆ ปี 1971 เธอคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันบุคคลรวมอุปกรณ์ ในการแข่งขันกระชับมิตรโรมาเนีย-ยูโกสลาเวีย นับเป็นความสำเร็จแรกในเวทีนานาชาติของนาเดีย
ปี 1973 นาเดียเข้าร่วมการแข่งขันดรูซบา คัพ (Druzhba Cup) ทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ ผลปรากฎว่า นาเดียกวาดเหรียญทองจาก 3 ประเภท (บุคคลรวมอุปกรณ์, ม้ากระโดด และบาร์ต่างระดับ) เธอจึงกลายเป็นนักยิมนาสติกเยาวชนที่เก่งที่สุดในโลกตะวันออก ด้วยวัย 11 ปี
Photo : Sharon Hume @hume0484
ความสำเร็จมากมายในระดับเยาวชน นาเดียถูกจับตาอย่างมากจากแฟนกีฬา เมื่อเธอลงแข่งขันรายการชิงแชมป์ยุโรป (European Women’s Artistic Gymnastics Championships) ในปี 1975
ทัวร์นาเมนต์นี้ นาเดียจะไม่ได้เจอกับนักยิมนาสติกระดับเยาวชนอีกแล้ว แต่ต้องแสดงฝีมือแข่งกับนักกีฬารุ่นใหญ่ โดยเฉพาะ ลุดมิลลา ทูริสเชวา จากสหภาพโซเวียต ที่เพิ่งกวาด 5 เหรียญทองจากการแข่งขันทุกประเภท (บุคคลรวมอุปกรณ์, ม้ากระโดด, บาร์ต่างระดับ, คานทรงตัว, ฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์) ในปี 1973 ซึ่งเป็นตัวเต็งของการแข่งขันครั้งนี้
นาเดียเริ่มต้นลงสนามด้วยยิมนาสติกประเภทม้ากระโดด และทำให้ผู้ชมตกตะลึงด้วยการแสดงท่า Tsukahara ท่ายิมนาสติกขั้นสูงที่เพิ่งถูกคิดค้นในปี 1972 โดย มิตสึโอะ สึกาฮาระ นักยิมนาสติกชาวญี่ปุ่น และมีเพียงนักกีฬาหญิงไม่กี่รายที่ทำได้
หลังทำผลงานอย่างยอดเยี่ยมในประเภทม้ากระโดด นาเดียลงแข่งขันรายการบาร์ต่างระดับ โดยใช้ท่าเฉพาะตัวเช่นเดียวกัน แต่คราวนี้ เธอไม่ได้หยิบยืมท่าของใคร
ADVERTISEMENT
นาเดียเปิดเผยให้เห็นการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “สัมผัสของนาเดีย” (Nadia Touch) ซึ่งเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เธอกลายเป็นนักยิมนาสติกผู้เขียนประวัติศาสตร์ในเวลาต่อมา
“ทุกทักษะเล็กน้อยที่แสดงออกไป ฉันปรับให้มันดูกว้างมากยิ่งขึ้น สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น” นาเดีย อธิบายการเคลื่อนไหวแบบ Nadia Touch
การฝึกฝนอย่างหนัก, พรสวรรค์ที่ติดตัวตั้งแต่เกิด, ท่าตีลังกาสุดหวือหวา หรือ รายละเอียดเล็กน้อยที่แตกต่าง ไม่ว่าเหตุผลเบื้องหลังความสำเร็จของนาเดียคืออะไร … แต่ในวินาทีนั้น ไม่มีใครปฏิเสธว่า เธอคือนักยิมนาสติกหญิงที่มีฝีมือดีที่สุดในโลก
นาเดียกวาด 4 เหรียญทองจาก 4 ประเภท (บุคคลรวมอุปกรณ์, ม้ากระโดด, บาร์ต่างระดับ และคานทรงตัว) และหนึ่งเหรียญเงิน จากประเภทฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ นี่คือความสำเร็จที่ทำให้เธอคว้ารางวัลนักกีฬาแห่งปี และเป็นความหวังเหรียญทองของชาวโรมาเนีย สำหรับโอลิมปิก เกมส์ 1976 ที่กำลังจะมาถึง
ADVERTISEMENT
Perfect 10 ที่เป็นไปไม่ได้
นาเดีย โคมานิชี อุ่นเครื่องก่อนลงแข่งขันมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยการคว้าแชมป์อเมริกัน คัพ ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
ในการแข่งขันครั้งนั้น เธอทำคะแนน 10 เต็ม 10 ได้ถึงสองครั้ง จากการใช้ท่าตีลังกากลับหลังสองตลบ (backward double salto) ในการแข่งขันประเภทบาร์ต่างระดับ นับเป็นนักยิมนาสติกหญิงคนแรกที่สามารถทำท่านี้ในการแข่งขัน (นาเดียยังพบเจออนาคตสามีของเธอ บาร์ต คอนเนอร์ เป็นครั้งแรกที่นี่)
Photo : www.theglobeandmail.com
ความสำเร็จครั้งใหญ่ก่อนโอลิมปิก เกมส์ 1976 เพียงไม่กี่เดือน ส่งผลให้นาเดียกลายเป็นตัวเต็งเหรียญทอง ในการแข่งขันที่นครมอนทรีออล ประเทศแคนาดา
นาเดียน้อมรับความคาดหวังนั้น เธอให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่สนามบินกรุงบูคาเรสต์ ถึงเป้าหมายเหรียญทองของเธอ โดยไม่รู้เลยว่า สิ่งที่เธอกำลังจะทำในอีกไม่กี่วันข้างหน้า จะยิ่งใหญ่กว่านั้นมาก
เมื่อการแข่งขันมาถึง นาเดียเดินเข้าสู่สนามด้วยหัวใจแน่นิ่ง เธอรู้ดีว่าตัวเองถนัดยิมนาสติกประเภทต่างระดับ ทุกอย่างดำเนินไปอย่างปกติ แม้แต่ตัวเธอเองยังยอมรับว่า อาจจะน่าเบื่อไปสักหน่อยด้วยซ้ำ
“ครั้งแรกที่ฉันได้ 10 คะแนนเต็ม คือการแข่งขันบาร์ต่างระดับท่าบังคับ และเป็นท่าเดิมที่คุณต้องทำทุกครั้ง ในการแข่งขันแต่ละครั้ง ซึ่งเป็นอะไรที่หลายคนคิดว่าน่าเบื่อ”
แม้เธอจะมีเคล็ดลับ Nadia Touch ที่ช่วยให้ท่วงท่าของเธอมีความแตกต่างในรายละเอียด แต่นาเดียยืนยันว่าการแสดงของเธอไม่ได้เพอร์เฟคต์ แม้จะยอดเยี่ยมมากก็ตาม เธอคาดหวังคะแนนรวม 9.9 แต้ม แต่สิ่งที่แสดงออกมาผ่านสกอร์บอร์ด กลับเป็นอะไรที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง
“ปกติแล้ว ฉันไม่ชอบดูสกอร์บอร์ดหลังจบการแข่งขัน เพราะฉันชอบจะให้คะแนนตัวเองจากความรู้สึกในตอนนั้น ซึ่งฉันคิดว่าฉันทำมันได้ดี แต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้คะแนนเต็ม 10” นาเดีย เล่าถึงวินาทีประวัติศาสตร์ของเธอ
“หลังจากนั้นไม่นาน ฉันได้ยินเสียงฮือฮาจากคนดูในสนาม ฉันจึงหันหลังกลับไปดูสกอร์บอร์ด ซึ่งตัวเลขขึ้นว่า ‘1.00’ พูดตามตรง ฉันสับสนมากในตอนนั้น”
Photo : www.revistamira.com.mx
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่นาเดีย จะรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะตัวเลขที่แสดงออกมากำลังบอกว่าเธอได้คะแนน 1 เต็ม 10 แต้ม แต่ขณะที่เธอกำลังตะลึงอยู่นั่นเอง เพื่อนของเธอที่ยืนอยู่ด้านข้าง สะกิดเธอและพูดว่า “ฉันคิดว่านั่นคือคะแนนเต็ม 10 นะ”
ความจริงเป็นเช่นนั้น กรรมการทุกคนให้คะแนน 10 เต็ม 10 แก่นาเดียในรอบดังกล่าว ส่งผลให้เธอเป็นนักยิมนาสติกคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ทำสกอร์ Perfect 10 ในโอลิมปิก เกมส์
ส่วนเหตุผลที่หน้าจอสกอร์บอร์ดแสดงผลคะแนน “1.00” นั่นเป็นเพราะ Omega บริษัทนาฬิกาชื่อดังที่เป็นพาร์ทเนอร์ของโอลิมปิก ไม่ได้ติดตั้งระบบแสดงผลคะแนนเต็ม 10 เอาไว้ เนื่องจากได้รับการยืนยันจากสมาพันธ์ยิมนาสติกสากล ถึงความเป็นไปได้ 0 เปอร์เซ็นต์ของคะแนน Perfect 10 ในโอลิมปิก
การแสดงของเธอถูกเรียกว่า “20 วินาทีแห่งความมหัศจรรย์” นาเดียไม่เพียงเขียนหน้าประวัติศาสตร์ แต่ทำสิ่งที่ผู้คนคิดว่าเป็นไปไม่ได้ให้เกิดขึ้นจริง ทันทีที่โฆษกประกาศคะแนนของเธอให้ผู้ชมราว 18,000 คนในสนามได้รับทราบ เสียงโห่ร้องจึงดังกึกก้อง เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองแก่เด็กหญิงวัย 14 ปี รายนี้
ท้ายที่สุด นาเดียกวาด 3 เหรียญทองจากประเภทคะแนนรวม, บาร์ต่างระดับ และคานทรงตัว ส่วนฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ ที่เธอได้เพียงเหรียญทองแดง ผู้คนยังจดจำการแสดงของเธอ จนเรียกเพลง The Young and the Restless ของศิลปิน The Ventures ว่า “เพลงของนาเดีย” (Nadia’s Theme) ซึ่งกลายเป็นเพลงฮิตทั่วโลก และคว้ารางวัลแกรมมี อวอร์ดส ในเวลาต่อมา
แต่ทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีความสำเร็จไหนยิ่งใหญ่กว่า คะแนน Perfect 10 ที่เธอทำได้ในโอลิมปิก เกมส์ โดยนาเดียทำคะแนนเต็ม 10 รวมทั้งหมด 7 ครั้ง แบ่งเป็นบาร์ต่างระดับ 4 ครั้ง และคานทรงตัว 3 ครั้ง นับเป็นเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในชีวิตนักยิมนาสติกของเธอ
“เมื่อคะแนน Perfect 10 เกิดขึ้นอีกหกครั้ง พวกเราก็เริ่มจะเคยชินกับมันแล้วละ เราพูดกันว่า ‘มันเกิดขึ้นอีกแล้ว นั่นมันแค่ 10 คะแนนเองนะ'” เบลา คาโรลีย์ กล่าวถึงผลงานของลูกศิษย์ กับความมหัศจรรย์ในโอลิมปิก เกมส์
ชีวิตหลังจากนั้น
โอลิมปิก เกมส์ 1976 คือจุดสูงสุดในอาชีพนักยิมนาสติกของ นาเดีย โคมานิชี เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เธอได้รับอาการบาดเจ็บ และเริ่มแสดงอาการ “ฟอร์มตก” ให้เห็น
Photo : www.marci-postale.com
สาเหตุหลักที่ทำให้เธอผลงานไม่ดีอย่างที่ควร คือแรงกดดันจากรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์ เธอถูกเชิดชูในฐานะ “ฮีโร่แห่งแรงงานสังคมนิยม” ซึ่งหมายถึงการเป็นแบบอย่างของประชาชน
ชีวิตที่เคยเป็นอิสระของนาเดียเริ่มถูกจับตามองโดยรัฐบาล เธอไม่สามารถโฟกัสกับการฝึกซ้อมมากเหมือนเคย แม้จะคว้า 2 เหรียญทองจากโอลิมปิก เกมส์ 1980 ที่กรุงมอสโก สหภาพโซเวียต มาครองได้สำเร็จ (พร้อมกับอีกสองสกอร์ Perfect 10) แต่นั่นก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้น
ปี 1989 นาเดียจึงตัดสินใจลี้ภัยจากโรมาเนีย เธอแอบหลบหนีออกจากบ้านเกิดในยามค่ำคืน และเดินทางฝ่านป่าในฤดูใบไม้ร่วง ร่วมกับคนแปลกหน้าอีก 5 คน พวกเขารอดพ้นจากสายตาของผู้มีอำนาจ และผ่านเข้าสู่เขตประเทศฮังการีได้สำเร็จ
นาเดียเดินทางต่อไปยังออสเตรีย ประเทศในเขตตะวันตก หรือ โลกเสรีนิยม เธอตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่สหรัฐอเมริกา ด้วยวัย 28 ปี (หลังจากนาเดียหลบหนีไม่กี่สัปดาห์ เกิดการปฏิวัติโรมาเนีย ประเทศเดียวที่ล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ด้วยความรุนแรง)
ถึงจะหันหลังให้แก่บ้านเกิด แต่สิ่งหนึ่งที่เธอไม่เคยตัดใจจากมัน คือ กีฬายิมนาสติก นาเดียร่วมงานกับเพื่อนเก่า บาร์ต คอนเนอร์ ที่กำลังเปิดโรงเรียนสอนยิมนาสติก ก่อนทั้งคู่จะแต่งงานกันในปี 1996
Photo : www.oklahoman.com
ปัจจุบัน นาเดีย อาศัยอยู่ที่รัฐโอกลาโฮมา สหรัฐอเมริกา และยังคงทำงานเป็นครูสอนยิมนาสติก รวมถึงทำกิจกรรมการกุศลเพื่อช่วยเหลือประเทศโรมาเนีย แม้ทุกวันนี้ เธอจะถือสัญชาติอเมริกันแล้วก็ตาม
นี่คือเรื่องราวของ นาเดีย โคมานิชี สาวน้อยมหัศจรรย์ที่เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่แก่โอลิมปิก แม้เวลาจะผ่านมานานกว่า 40 ปี แต่เรื่องราวของ “20 วินาทีแห่งความมหัศจรรย์” จะยังคงอยู่ตลอดไป ตราบเท่าที่โอลิมปิก เกมส์ ยังคงอยู่บนโลกใบนี้