นายกไทย ยกหู หานายกออสเตรเลีย เฝ้ารอหวังได้พบหน้าที่เอเปค

Home » นายกไทย ยกหู หานายกออสเตรเลีย เฝ้ารอหวังได้พบหน้าที่เอเปค



นายกไทย โดนทาบทาม เลยยกหูหานายกออสเตรเลีย ฉลองครบ 70 ปีความสัมพันธ์ ต่างเฝ้ารอหวังได้พบหน้ากันที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่กัมพูชา และที่เอเปคเดือนนี้

วันที่ 8 พ.ย.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หารือทางโทรศัพท์กับ นายแอนโทนี แอลบาเนซี (The Honourable Anthony Albanese MP) นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการหารือครั้งแรกระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยกับออสเตรเลีย ภายหลังออสเตรเลียจัดตั้งรัฐบาลใหม่เมื่อเดือนพ.ค. โดยในการหารือครั้งนี้ ฝ่ายออสเตรเลียเป็นผู้ทาบทาม

โดยพล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เชื่อมั่นว่าจะช่วยขับเคลื่อนความสัมพันธ์และความร่วมมือไทย-ออสเตรเลียให้เพิ่มพูนแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทางนายกฯไทย ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ของสองชาติที่มีพลวัตรสูงและหวังว่าปีนี้ในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองประเทศจะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันมากยิ่งขึ้น

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันความพร้อมการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค และให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียซึ่งจะเดินทางมาร่วมการประชุมฯ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการหารือร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนเอเปคท่ามกลางความท้าทายในโลก

ด้านนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย กล่าวขอบคุณพล.อ.ประยุทธ์ และเป็นเกียรติที่ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ชื่นชมความสัมพันธ์ทวิภาคีไทย-ออสแตรเลียที่จะครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต 70 ปี ในปีนี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวถึงการต่อสู้กับไวรัสโควิด – 19 ว่าเป็นความท้าทายที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกทุกประเทศต้องร่วมมือกัน

ทั้งนี้ผู้นำออสเตรเลียเฝ้ารอที่จะได้พบพลอ.ประยุทธ์ ในการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ราชอาณาจักรกัมพูชา และเดินทางเข้าร่วมการประชุมเอเปค 2022 ที่ประเทศไทย ซึ่งหวังว่าจะได้มีโอกาสพบปะหารือนายกรัฐมนตรี (Bilateral Meeting) อีกครั้ง

จากนั้น ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับความร่วมมือทวิภาคีภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) และยินดีที่มีการลงนามร่วมในแผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งแผนปฏิบัติการร่วมนี้ จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความร่วมมือทวิภาคีระหว่างกันในทุกมิติ ในด้านความมั่นคงรูปแบบใหม่

โดยต่างยินดีที่ทั้งสองฝ่ายจะได้ร่วมกันจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อสู้กับการค้ามนุษย์ร่วมกัน ด้านเศรษฐกิจ ยินดีกับความคืบหน้าของการจัดทำยุทธศาสตร์ความร่วมมือ ด้านเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) ด้านการลงทุน ยินดีที่ภาคเอกชนมีการลงทุนขนาดใหญ่ระหว่างกัน หวังให้มีการลงทุนระหว่างกันเพิ่ม เพื่อฟื้นฟู กระตุ้นเศรษฐกิจ

ส่วนของความสัมพันธ์พหุภาคี นายกรัฐมนตรีทั้งสองตกลงร่วมกันที่จะกระชับความร่วมมือ โดยไทยพร้อมเสริมสร้างความร่วมมือกับออสเตรเลีย รวมทั้งสนับสนุนบทบาทของออสเตรเลียในภูมิภาค โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าการประชุมเอเปคจะเปิดโอกาสสำคัญให้ความร่วมมือในโลก ซึ่งนายกรัฐมนตรีขอบคุณออสเตรเลียที่สนับสนุนไทยในการเป็นเจ้าภาพ หัวข้อหลักเปิดกว้าง สร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล หรือ “Open. Connect. Balance.” ตลอดจนประเด็นที่ไทยให้ความสำคัญ ได้แก่ แนวคิด BCG ของไทย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ