วันที่ 9 มี.ค. บีบีซี รายงานว่า นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เตรียมประกาศภาวะฉุกเฉินระดับชาติ หลังสถานการณ์ น้ำท่วม ร้ายแรงจากฝนตกหนักในภาคตะวันออกของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งรัฐควีนส์แลนด์และนิวเซาท์เวลส์ มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 20 ราย บ้านเรือนเสียหายหลายพันหลังตลอดช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้รัฐบาลและหลายหน่วยงานถูกวิจารณ์อย่างหนักจากชาวออสเตรเลียถึงความล่าช้าในการเข้าช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งนักวิทยาศาสตร์มองว่าเป็นผลลัพธ์จากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง หรือโลกร้อน ทางการออสเตรเลียถือเป็นหนึ่งในชาติที่มีท่าทีต่อต้านมาตรการหลายอย่างตามข้อตกลงปารีส

การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติของนายมอร์ริสันถือเป็นครั้งแรกของออสเตรเลีย และจะส่งผลให้รัฐบาลกลางมีอำนาจเข้าไปแทรกแซงการบริหารจัดการของหน่วยงานท้องถิ่นมากขึ้น นายมอร์ริสันแถลงข่าวที่เมืองลิสมอ พื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายจาก น้ำท่วม มากที่สุด ระบุว่าเป็นสถานการณ์ภัยพิบัติที่รุนแรงที่สุดในรอบ 500 ปี

อย่างไรก็ตาม นายมอร์ริสัน เผชิญความไม่พอใจจากชาวบ้านจำนวนมากขณะลงพื้นที่ บางแห่งไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล มีเพียงอาสาสมัครที่เข้ามาช่วยเหลือ และชาวบ้านต้องอาศัยพักพิงในเต็นท์และรถยนต์ ชาวบ้านบางคนต้องรอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคาบ้านนานกว่า 16 ชั่วโมง รวมถึงกลุ่มนักรณรงค์แก้ไขโลกร้อนที่พากันมาประท้วงนายมอร์ริสัน