“ธนกร” โว โครงการคนละครึ่งฟื้นเศรษฐกิจได้ ประชาชนต่างชื่นชอบ นายกฯ สั่งเปิดเฟส 3 ขณะรัฐบาล มั่นใจ “ทัวร์เที่ยวไทย” ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงวันหยุดได้เดินทางไปพักผ่อนที่จังหวัดภูเก็ต เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก เริ่มมีความคึกคัก ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าฝากขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ดำเนินโครงการคนละครึ่ง ซึ่งได้รับการชื่นชมจากประชาชนอย่างมาก เกิดการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ คาดว่าจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้ ซึ่งโครงการคนละครึ่งจะจบเฟส 2 สิ้นเดือนมีนาคมนี้ ทางรัฐบาลได้เตรียมการที่จะเปิดเฟส 3 ให้กับพี่น้องประชาชนต่อไป คาดว่าโครงการดังกล่าวจะออกได้หลังจากโครงการเราชนะและโครงการ ม.33 เรารักกัน สิ้นสุดช่วงเดือนพฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ ตนเองไม่เข้าใจพรรคฝ่ายค้านที่ออกมาโจมตีรัฐบาลได้ทุกเรื่อง แทนที่จะมาช่วยกันทำงานช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เข้าใจได้ว่าพอรัฐบาลทำโครงการดังกล่าวแล้วประชาชนชื่นชอบ ประสบความสำเร็จ คงเกรงว่าประชาชนจะรัก พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มขึ้น จึงส่งแกนนำออกมาดิสเครดิตรายวัน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ทุกโครงการที่รัฐบาลเยียวยาช่วยเหลือประชาชน จะใช้งบประมาณจาก พ.ร.ก.กู้เงินฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นการใช้เม็ดเงินที่คุ้มค่ามาก ซึ่งทั้ง 3 โครงการมีประชาชนได้รับการช่วยเหลือกว่า 40 ล้านคน ทั้งนี้ สิ่งที่รัฐบาลทำถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว ขณะเดียวกันก็เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้กับประชาชนแล้ว สถานการณ์ต่างๆ ค่อยๆ ดีขึ้น จึงไม่อยากเห็นการชุมนุมบนท้องถนนที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งของคนในประเทศ คงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ควรจะร่วมแรงร่วมใจกันช่วยเหลือประชาชนจะดีกว่า
รัฐบาล มั่นใจ “ทัวร์เที่ยวไทย” ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว ตั้งเป้าเศรษฐกิจกระจายรายได้กว่า 15,500 ล้านบาท
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการ”ทัวร์เที่ยวไทย” ช่วยเยียวยาผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวส่งเสริมการเดินทางข้ามจังหวัด/ภูมิภาค เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ลงไปในท้องถิ่นและชุมชน โดยรัฐบาลสนับสนุนงบประมาณสำหรับแพคเกจเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี) ที่มีระยะเวลาการเดินทางอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน และข้ามจังหวัด โดยสนับสนุน 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท 1 คนต่อ 1 สิทธิ์ ผ่านบริการของบริษัทนำเที่ยวในประเทศที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย จุดประกายการเดินทางในประเทศ เพื่อพลิกฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่อุปทาน อาทิ บริษัทนำเที่ยว โรงแรมที่พัก ธุรกิจด้านการขนส่ง ธุรกิจร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องให้มีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 12,500 ล้านบาทเกิดการกระจายรายได้จากโครงการทัวร์เที่ยวไทยในทางอ้อมอีกไม่น้อยกว่า 3,000 ล้านบาท
สำหรับขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ ฯ ผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) นั้น จะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวต้องให้ความยินยอม (consent) สมัครบัญชีถุงเงิน ณ สาขา ธ.กรุงไทย ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ (www.ทัวร์เที่ยวไทย.ไทย) ททท. และ กรมการท่องเที่ยวจะตรวจสอบความถูกต้อง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังมั่นใจว่า การที่ไทยได้รับการจัดอันดับจาก Global COVID-19 Index (GCI) เป็นอันดับ 1 ของโลกในการฟื้นตัวของจากสถานการณ์ของโรค COVID-19 จาก 184 ประเทศทั่วโลก และติด 1 ใน 5 ประเทศที่บรรเทาการระบาดของไวรัสได้ก้าวหน้าที่สุด รวมทั้งแผนการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่เริ่มต้นแล้ว และเป็นไปตามเป้าหมาย แสดงถึงความพร้อมด้านสาธารณสุขของไทย ประชาชนเชื่อมั่นและมั่นใจความปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งนี้ มาตรการ “ทัวร์เที่ยวไทย” และ “เราเที่ยวด้วยกัน” จะช่วยสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวตลอดห่วงโซ่ทั้ง โรงแรม ผู้ประกอบ และแรงงานภาคการท่องเที่ยวกว่า 4.3 ล้านคนกลับมาคึกคักอีกครั้ง