นายกฯออสเตรีย เตรียมพบปูตินถกยุติศึก คาดหยิบยกประเด็นอาชญากรรมสงคราม – ยูเครนพบผู้เสียชีวิตจากการสังหารของทหารรัสเซียนอกกรุงเคียฟอย่างน้อย 1,200 ราย
วันที่ 11 เม.ย. เอเอฟพี รายงานว่า นายคาร์ล นีแฮมเมอร์ นายกรัฐมนตรีออสเตรีย จะเดินทางเยือนกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย อย่างเป็นทางการ เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
คาดว่านายนีแฮมเมอร์จะหยิบยกประเด็นอาชญากรรมสงครามที่เกิดขึ้นในพื้นที่ที่กองทัพรัสเซียยึดครองในประเทศยูเครน ท่ามกลางความกังวลของนักวิเคราะห์ถึงพัฒนาการของการถอดชนวนความขัดแย้งที่ไม่มีความคืบหน้าแต่กลับเดินหน้าไปในทิศทางตรงกันข้ามสู่ความแตกหักกันระหว่างกลุ่มชาติโลกเสรีกับรัสเซีย
การเยือนดังกล่าวจะส่งผลให้นายนีแฮมเมอร์กลายเป็นผู้นำชาติยุโรปคนแรกที่เผชิญหน้าตัวต่อตัวกับประธานาธิบดีปูตินซึ่งมีคำสั่งให้กองทัพรัสเซียรุกรานยูเครนโดยอ้างว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” เมื่อ 24 ก.พ.
ขณะที่ทางการยูเครนพบร่างพลเรือนผู้เสียชีวิตจากการสังหารของทหารรัสเซียในเขตบูชานอกกรุงเคียฟแล้วอย่างน้อย 1,200 ราย ซึ่งคณะสืบสวนมีรายชื่อผู้ต้องสงสัยแล้วกว่า 500 คน ในจำนวนนี้ รวมถึงประธานาธิบดีปูตินในฐานะผู้รับผิดชอบหลัก ท่ามกลางการเปลี่ยนแผนยุทธศาสตร์ของรัสเซียเป็นการพุ่งเป้าโจมตีไปที่ภูมิภาคดอนบาสทางภาคตะวันออกของยูเครนแทน
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซียเตรียมเปิดฉากโจมตีระลอกใหม่ทางภาคตะวันออกของยูเครน โดยการโจมตีระลอกใหม่นี้จะมีขนาดใหญ่และความรุนแรงมากกว่าที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่ารัสเซียต้องการยึดครองพื้นที่เพื่อเชื่อมแคว้นไครเมียเข้ากับแคว้นลูฮานสก์และโดเนตสก์ในภูมิภาคดอนบาสที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกองกำลังฝักใฝ่รัสเซีย อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีเซเลนสกี ยืนยันว่า ยูเครนมีความพร้อมเต็มที่ที่จะต้านทานผู้รุกราน
นายเซอร์ฮี ไกเดย์ นายกเทศมนตรีเมืองลูฮานสก์ เมืองเอกแคว้นลูฮานสก์ กล่าวว่า ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นอาจเทียบเท่าเมืองมาริอูโปลซึ่งถูกทำลายราบคาบไปแล้วถึงร้อยละ 70 พร้อมคาดว่าการสู้รบที่กำลังจะเกิดขึ้นน่าจะกินเวลานานหลายวัน ขณะที่ฝ่ายรัสเซียเองทราบดีว่าพื้นที่ที่กำลังจะกลายเป็นสนามรบไม่มีเป้าหมายทางทหาร ดังนั้นการโจมตีที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้ย่อมถือว่าเป็นการโจมตีต่อพลเรือนเทียบเท่ากับการก่อการร้าย
ด้านความเคลื่อนไหวของชาติตะวันตก ทางการสหภาพยุโรป หรืออียู เปิดประชุมระดับรัฐมนตรีเพื่อเตรียมใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจลงโทษทางการรัสเซียเพิ่มเติมเป็นรอบที่ 6 แต่เกิดความกังวลหลังตกลงกันไม่ได้เกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียที่ชาติยุโรปต้องพึ่งพาเป็นหลัก
ส่วนการเดินทางเยือนรัสเซียของผู้นำออสเตรียซึ่งไม่ใช่สมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต โฆษกรัฐบาลออสเตรียระบุว่า เป็นการตัดสินใจของนายนีแฮมเมอร์หลังหารือกับประธานาธิบดีเซลเลนสกี โดยผู้นำออสเตรียต้องการช่วยเป็นกลไกหนึ่งในการสร้างสันติภาพ
ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ยังคดินสายโทรศัพท์หารือกับบรรดาชาติที่มีท่าทีประนีประนอมต่อทางการรัสเซีย ล่าสุด เป็นนายเนรทรา โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย หลังเพิ่งหารือกับประธานาธิบดีของแอฟริกาใต้
ขณะที่ธนาคารโลก หรือเวิร์ลแบ็งก์ เตือนว่า เศรษฐกิจของยูเครนปีนี้จะหดตัวถึงร้อยละ 45.1 ขณะเศรษฐกิจรัสเซียจะหดตัวลงราวร้อยละ 11.2 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่คาด