นายกฯปากีลั่น หากแพ้มติไม่ไว้วางใจ จะไม่ยอมรับรัฐบาลจากฝ่ายค้าน

บีบีซี รายงานว่า นายอิมราน ข่าน นายกรัฐมนตรีปากีสถาน กล่าวว่า หากถูกถอดถอนจากตำแหน่ง จะไม่ยอมรับรัฐบาลที่มาจากฝ่ายค้าน ก่อนการลงมติไม่ไว้วางใจในสภาวันที่ 9 เม.ย. ซึ่งคาดว่านายข่านจะพ่ายแพ้

นายข่านกล่าวในการแถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศว่า ยอมรับคำพิพากษาของศาลสูงสุดที่ชี้ว่าการที่นายข่านตัดสินใจยับยั้งการลงมติไว้วางใจเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ และสั่งให้การลงมติไม่ไว้วางใจเดินหน้าต่อในวันที่ 9 เม.ย.

อย่างไรก็ตาม นายข่านยังอ้างโดยไม่มีหลักฐานว่า สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำสมคบคิดเพื่อขับตนออกจากอำนาจ และเรียกร้องให้ประชาชนออกมาจากบ้านวันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย. เพื่อประท้วงต่อต้าน “การเล่นละครที่ได้รับทุนจากต่างชาติ”

“ผมจะอยู่ที่นั่น (การประท้วง) กับคุณเพราะผมจะไม่ยอมรับการสมคบคิดของต่างชาติที่มีต่อปากีสถาน” นายข่านกล่าว

…………..

ทั้งนี้ การลงมติไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้นวันนี้มีขึ้นหลังส.ส.ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจต่อสภาเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เม.ย. อันเป็นความพยายามขับนายข่านออกจากตำแหน่ง แต่นายกาซิม ซูรี รองประธานสภา ที่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองของนายข่าน ขัดขวางการลงมติ โดยอ้างว่าแสดงถึงการแทรกแซงของต่างชาติ และว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญที่เรียกร้องการจงรักภักดีต่อรัฐปากีสถาน

ต่อมา รัฐบาลนายข่านยุบสภาและเรียกร้องจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด ทำให้สมาชิกฝ่ายค้านจำนวนมากไม่พอใจ โดยบางคนกล่าวหานายข่านเป็นกบฏในการขัดขวางการลงมติไม่ไว้วางใจ และสมาชิกฝ่ายค้านยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดเพื่อวินิจฉัย

นายข่านกล่าวมาตลอดว่า พรรคฝ่ายค้านปากีสถานทำงานร่วมกันมหาอำนาจต่างประเทศ โดยอ้างว่า ตนตกเป็นเป้าหมายของการสมคบคิดที่มีสหรัฐเป็นหัวหอก เนื่องจากตนปฏิเสธที่จะเคียงข้างสหรัฐต่อประเด็นรัสเซีย จากการเยือนประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ในช่วงที่รัสเซียรุกรานยูเครน และก่อนหน้านี้ วิจารณ์การทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายของสหรัฐ แต่สหรัฐปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวไม่มีความจริง

…………..

ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่า นายข่านได้รับการกล่าวขานอย่างกว้างขวางว่าเข้ามามีอำนาจด้วยความช่วยเหลือจากกองทัพปากีสถาน แต่ตอนนี้ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่าพวกเขาหลุดออกจากตำแหน่งแล้ว และพันธมิตรของนายข่านจำนวนหนึ่งทิ้งนายข่านไปเช่นกัน

ยังไม่มีความชัดเจนว่านายข่านมีทางเลือกอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์หรือไม่ นอกจากตัวเองและสมาชิกสภาตัดสินใจยื่นลาออกยกชุด เพื่อพยายามหลีกเลี่ยงความอับอายต่อการพ่ายแพ้

ในกรณีที่นายข่านพ้นจากอำนาจ พรรคฝ่ายค้านเป็นที่คาดหมายในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่เพื่อสามารถครองอำนาจจนถึงเดือนส.ค. 2566 ซึ่งกำหนดการเลือกตั้งใหม่ที่จะจัดขึ้น