การอภิปรายคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 2 เรียกได้ว่าเผ็ดร้อนไม่แผ่วจากวันแรกเลย เมื่อนายศิริโรจน์ ธนิกกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จ.สมุทรสาคร เขตเลือกตั้งที่ 2 อภิปรายนโยบายของรัฐบาลว่ารัฐบาลไม่ได้ใส่ใจนักกับแรงงาน โดยเฉพาะ ผู้ทำอาชีพรับส่งอาหาร (ไรเดอร์) ผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมกับสวมเสื้อไรเดอร์สีเขียวสดและเทา พร้อมบอกเล่าการถูกเอารัดเอาเปรียบระหว่างที่ตนเคยทำอาชีพนี้มาก่อนจะมาเป็น สส.

นายศิริโรจน์ ยังอภิปรายว่าตนผิดหวังที่นโยบายที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลง เพราะไม่ได้ให้ความสำคัญต่อแรงงานข้ามชาติจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่เป็นแรงงานที่สำคัญต่อเศรษฐกิจของไทยมาก

พรรคลุงติงสวมชุดไรเดอร์

เมื่อนายศิริโรจน์อภิปรายเสร็จ นายวิทยา แก้วภราดัย สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลุกขึ้นประท้วงนายพรเพชร วิชิตชลชัย ที่ทำหน้าที่ประธานในขณะนั้น ให้ควบคุมการประชุม ไม่ให้ผู้อภิปรายสวมชุดไรเดอร์

“ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าเราไปกันมากครับ บางเรื่องบางราวที่ประธานวินิจฉัยก็ไม่ยอมที่จะยอมรับ แล้วก็การประพฤติตัวในสภาก็ค่อนข้างจะไปกันใหญ่ ที่นี่ไม่ใช่โรงแสดงนะครับ ผมไม่อยากขัดเพื่อนสมาชิกที่อภิปรายเมื่อสักครู่แล้วเอาโน่นเอานี่มาสวมใส่กัน ทุกอย่างที่เอาเข้ามาในห้องประชุมมันต้องได้รับอนุญาตจากท่านประธานสภา” นายวิทยา กล่าว

เพื่อไทยจี้ถอนรัฐบาลส้มหล่น

ต่อมานางสาวสรัสนันท์ อรรณนพพร สส. จ.ขอนแก่น เขต 8 พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายศิริโรจน์ พรรคก้าวไกล ว่าใส่ร้ายเสียดสีรัฐบาล โดยอธิบายว่ารัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ “รัฐบาลส้มหล่น” เพราะเป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนและได้รับการโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย

“วิโรจน์” โต้ทำไมใส่ชุดไรเดอร์ไม่ได้

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จึงลุกขึ้นตอบโต้ว่าเพื่อนร่วมพรรคของตัวเองไม่ได้กล่าวว่ารัฐบาลส้มหล่น แต่พูดว่า “นายกฯ ส้มหล่น” ควรให้นายเศรษฐาที่ถูกพาดพิงโดยตรงมาตอบโต้เองไม่จำเป็นที่จะต้องให้คนในพรรคเดียวกันมาตอบโต้เช่นนี้

สส. พรรคก้าวไกลรายนี้ยังกล่าวตอบโต้นายวิทยาจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าการสวมชุดไรเดอร์มันผิดตรงไหน ถ้าคิดว่าไม่เหมาะสมแล้วทำไมตอนหาเสียงต้องไปขอเสียงจากไรเดอร์ให้ลงคะแนนให้

“ทำไมฮะ การเป็นไรเดอร์มันผิดตรงไหนฮะ การที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะสะท้อนถึงความทุกข์ความร้อนของไรเดอร์มีข้อจำกัดด้วยเหรอครับว่าห้ามใส่เสื้อ ทำไมฮะ ตอนหาเสียงก็พูดขอเสียงคะแนนไรเดอร์กันทุกคน” นายวิโรจน์ กล่าว

พรรคลุงไม่จบ เพื่อไทยไม่แล้วใจ “ส้มหล่น”

ทันใดนั้นนายวิทยาลุกขึ้นประท้วงต่อ และยืนยันว่าตนไม่เคยตำหนิคนทำอาชีพไรเดอร์ เพียงแต่ต้องการให้รักษาระเบียบของการประชุม ทั้งยังรู้สึกว่าไม่มีใครเห็นหัวนายพรเพชร ที่ทำหน้าที่ประธานอยู่ เพราะแต่ละคนมีไมโครโฟนอยู่ตรงหน้าตัวเอง จึงอยากให้สมาชิกแต่ละคนรอให้ประธานอนุญาตก่อนจะพูด

ต่อมานายพรเพชรวินิจฉัยว่าตนอนุโลมให้ในวันนี้เพราะเป็นการแถลงนโยบายของรัฐบาลจึงไม่อยากให้การแถลงสะดุด ส่วนชุดไรเดอร์นั้นตนก็จะห้ามในตอนแรก แต่นายศิริโรจน์ถอดและวางลงไปแล้วจึงไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด ส่วนเรื่อง “ส้มหล่น” ตนก็ทำหลายอย่างอยู่บนบัลลังก์จึงตกหล่นไปบ้าง แต่ก็ขอเตือนสมาชิกว่าครั้งต่อไปจะต้องไม่มีอีก และกล่าวถึงประเด็นที่ สส. อ่านสคริปต์จากแท็บเล็ตว่าโลกเปลี่ยนไปแล้ว และการอ่านจากแท็บเล็ตโดยที่ก้มมองเป็นบางครั้งก็ดีกว่าการก้มอ่านตลอดเวลา

แต่นางสาวสรัสนันท์ยังไม่พอใจและพูดถึงประเด็นที่ สส. พรรคก้าวไกล กล่าวหานายเศรษฐาว่าเป็นายกฯ ส้มหล่น ว่าใส่ร้ายเพราะนายเศรษฐาได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาถึง 486 เสียง ทำให้นายพรเพชรสั่งให้นายศิริโรจน์ จากพรรคก้าวไกล ถอนคำว่า “ส้มหล่น”

นายศิริโรจน์ จึงถามนายพรเพชรว่าจะให้ถอนคำว่าอะไรกันแน่ระหว่าง “รัฐบาลส้มหล่น” และ “นายกฯ ส้มหล่น” นางสาวสรัสนันท์กล่าวตอบโต้ว่าต้องถอนทั้ง 2 คำนี้ นายศิริโรจน์จึงถอนคำว่า “ส้มหล่น” เป็นคำว่า “ส้มทั้งแผ่นดิน” แทน

นายวิโรจน์ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นพูดสั้นๆ ขอบคุณนายพรเพชรที่ “สั่งสอน” สมาชิกบางคนให้ทราบว่าโลกเราเปลี่ยนไปแล้ว

นางสาวสรัสนันท์ก็ยังไม่จบเรื่อง “ส้มหล่น” และกล่าวให้นายพรเพชรสั่งให้นายวิโรจน์ถอนคำว่านายกฯ ส้มหล่น แม้นายพรเพชรกล่าวว่านายวิโรจน์ไม่ได้พูด แต่นางสาวสรัสนันท์และ สส. พรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ยืนยันว่าพูด

นายวิโรจน์ตอบโต้ว่า ถ้าอย่างนั้นก็อยากให้นางสาวสรัสนันท์ถอนคำว่า “ส้มหล่น” เช่นกัน เพราะ ณเวลานี้กลายเป็นคนที่พูดคำนี้มากที่สุด

เพื่อไทยเรียกก้าวไกล “น้องๆ” วิโรจน์โต้กลับแรง

นายพัฒนา สัพโส สส. จ.สกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 4 พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นมาพูดบ้าง และขอประท้วงนายวิโรจน์ที่ไม่ได้อภิปรายแบบสร้างสรรค์ และตนอธิบายว่าที่ผ่านมาตนให้เกียรติพรรคก้าวไกลอภิปราย โดยกล่าวถึง สส. พรรคก้าวไกล โดยใช้คำว่า “น้องๆ” 

เหตุนี้นายวิโรจน์จึงลุกขึ้นตอบโต้ว่าตนไม่เคยมีพี่ชายลักษณะนี้

“ท่านประธานที่เคารพครับ ผมขออนุญาตประท้วงท่านพัฒนาครับ เรียกผมน้องๆ ผมไม่เคยมีพี่ชายสันดานแบบนี้ครับ” นายวิโรจน์กล่าว

ทำให้นายพรเพชรปิดไมโครโฟนทุกคน และสั่งให้นายวิโรจน์ถอนคำว่า “สันดาน” และเปลี่ยนเป็น “พี่ชายแบบนี้”