ลุงวัย 60 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดจับเมียเป็นตัวประกันกลางทุ่งนา นานกว่า 3 ชั่วโมง คาดเครียดอยากบวชแต่ไม่มีเงิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ก.ค.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งมีเหตุชายคลุ้มคลั่งใช้อาวุธมีจีตัวประกันที่กลางทุ่งนา หมู่ที่ 8 ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาย จ.อ่างทอง
ที่เกิดเหตุพบ นายสำราญ อายุ 60 ปี ใช้มีดจ่อคอ นางอัปสร อายุ 62 ปี ภรรยาของตัวเอง อยู่บริเวณกลางทุ่งนา โดยนายสำราญมีอาการคลุ้มคลั่งพูดจาไม่รู้เรื่องตลอดเวลา ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องพยายามพูดคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ
ทางเจ้าหน้าที่จึงปะสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยอ่างทองและรถกู้ชีพจากโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญมาเตรียมพร้อม ก่อนที่จะพยายามให้นายสุชาติ คงประสงค์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลสามโก้ มาพูดคุยแต่นายสำราญก็ยังไม่มีทีท่าอ่อนลง โดยบอกอยากพุดคุยกับพระครูวิกรมธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดหนองกร่าง เท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปนิมนต์ให้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ
นายสำรวย วงษ์สนอง อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า นายสำราญก่อเหตุจี้ภรรยาของตัวเอง ซึ่งนายสำราญปกติไม่มีงานทำและมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนภรรยาก็สุขภาพไม่ค่อยดีจึงอยู่บ้านเฉยๆ ซึ่งสาเหตุที่ก่อเหตุคาดว่าน่าจะเสพยาเสพติดจนคลุ้มคลั่ง
หลังจากเวลาผ่านไปนานกว่า 3 ชั่วโมง นายสำราญมีท่าทีอ่อนลง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงโยนน้ำดื่มให้นายสำราญ และเกลี้ยกล่อมให้นายสำราญดื่มน้ำ โดยจังหวะที่นายสำราญหยิบขวดดื่มน้ำและวางมีด นางอัปสรก็ฉวยโอกาสโยนมีดออกห่างจากตัวของนายสำราญ จนเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปชาร์จจับกุมตัวไว้ได้ ก่อนนำขึ้นมาสงบสติอารณ์
โดยขณะนั้นพระครูวิกรมธรรมโสภณ เดินทางมาถึงพอดี นายสำราญก็ถึงกับก้มกราบและมีการพูดคุยกัน ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวนายสำราญไปสอบสวนที่ สภ.วิเศษชัยชาย และส่งตัวหาสารเสพติด ส่วนนางอัปสรทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชายเพื่อตรวจร่างกาย
ด้าน พระครูวิกรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดหนองกร่าง เล่าให้ฟังว่า นายสำราญอยู่กินกับนางอัปสรมานานและมีลูกด้วยกัน แต่เสียชีวิตไปหมดแล้ว ช่วงนี้ไม่มีงานทำจึงเกิดความเครียด อยากบวชเป็นพระซึ่งนายสำราญเคยไปหาตนเพื่อขอบวช แต่เนื่องจากเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดทำให้ไม่สามารถบวชได้ ประกอบกับไม่มีเงินทำให้น่าจะเกิดความเครียดจึงก่อเหตุเช่นนี้