เหตุการณ์เกิดในห้องเรียน! นักเรียนหญิงวัย 15 เปิดฉากซัดกันนัว-ด่ากราดลั่น ครูเข้าขวางเจอเขวี้ยงเก้าอี้เหล็กฟาดหัว อึ้ง เห็นว่าหมดสติแต่ไม่แคร์

New York Post รายงานกรณีการใช้ความรุนแรงในโรงเรียน ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมมา เด็กนักเรียนหญิงอายุ 15 ปี ทะเลาะวิวาทกันในห้องเรียนของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ ครูเข้าห้ามโดนเก้าอี้เหล็กฟาดหัวล้มทั้งยืน

ตามคลิปที่ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ นักเรียนทะเลาะวิวาทกันอย่างดุเดือด กรีดร้องและตะโกนพ่นถ้อยคำหยาบคายใส่กันไม่หยุด คุณครูซึ่งเห็นเหตุการณ์ได้พยายามระงับความวุ่นวาย เธอรีบเดินเข้าไปยืนแทรกกลางอยู่ระหว่างนักเรียนทั้งสองคน เพราะสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นที่รุนแรงของนักเรียน

อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่านักเรียนจะไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้ จู่ๆ ก็จึงคว้าเก้าอี้เหล็กขึ้นมาปาไปกลางอากาศ ก่อนที่มันจะลอยมาฟาดเข้าที่ศีรษะของคุณครูอย่างรุนแรง ส่งผลให้ล้มลงกับพื้นและหมดสติไปทันที และที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ นักเรียนไม่ใส่ใจต่ออาการของคุณครู พวกเธอเพียงแค่ซกต่อยกันต่อเท่านั้น

หัวหน้าตำรวจเมืองฟลินท์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรของโรงเรียนถูกเรียกตัวให้ไปยุติการต่อสู้ระหว่างนักเรียนมัธยมหญิง 2 คน และพบว่ามีคุณครูคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นโดยมีอาการบาดเจ็บที่ศีรษะ สุดท้ายนักเรียนทั้งคู่ถูกจับกุม และถูกอัยการสั่งฟ้องความผิดฐานทำร้ายร่างกาย

ขณะที่ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คุณครูถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และได้กลับบ้านในวันเดียวกันนั้น ส่วนนักเรียนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความรุนแรง จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายและตามกฎจรรยาบรรณของเขต

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นไวรัลบนโซเชียลฯ มียอดดูมากกว่า 8 ล้านครั้งบน Facebook และ X (ชื่อเดิมคือ Twitter) ท่ามกลางคอมเมนต์ส่วนใหญ่ที่แสดงความคิดเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษา

เช่นเดียวกับ เจมส์ เครก อดีตผู้บัญชาการตำรวจเมืองดีทรอยต์ ผู้วางแผนลงสมัครรับตำแหน่งพรรครีพับลิกัน ที่ได้กล่าวกล่าวว่า “คลิปนี้รวบรวมสภาพการศึกษาที่น่าเศร้าในรัฐมิชิแกนได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีความรู้สึกถึงความสงบเรียบร้อยหรือกฎระเบียบ ไม่มีความเคารพต่อครู และที่แย่ที่สุดคือไม่มีการศึกษา

ความล้มเหลวในการให้ความรู้แก่เยาวชนชาวมิชิแกนเป็นสูตรสำเร็จของอาชญากรรมที่เพิ่มขึ้น การว่างงานที่เพิ่มขึ้น และความผิดปกติทางสังคม ชาวมิชิแกนสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า”

ทั้งนี้ ตามที่ผู้อำนวยการโรงเรียนระบุ นอกเหนือจากกฎหมายแล้ว นักเรียนจะต้องปฏิบัติตามหลักจรรยาบรรณของเขต แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่ามีการลงโทษทางวินัยหรือไม่ หรือนักเรียนถูกไล่ออกหรือไม่ก็ตาม