นักเรียนทุนอานันทมหิดล ร่วมน้อมรำลึก พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9

Home » นักเรียนทุนอานันทมหิดล ร่วมน้อมรำลึก พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9


นักเรียนทุนอานันทมหิดล ร่วมน้อมรำลึก พระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9

นักเรียนทุนอานันทมหิดล ร่วมน้อมรำลึก พระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ ในหลวง รัชกาลที่ 9

เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2565 เป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนารถบพิตร และวันพ่อแห่งชาติ ในการนี้ ดร.จิรนิติ หะวานนท์ กรรมการ, เลขานุการแผนกธรรมศาสตร์ มูลนิธิอานันทมหิดล และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ขอร่วมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศไทยนานัปการ และในฐานะตัวแทนของนักเรียนทุนอานันทมหิดล ซึ่งในชีวิตที่ผ่านมาได้นำพระราชกรณียกิจมาปรับใช้ในการทำงานหลายอย่าง ถือเป็นประสบการณ์ที่มีประโยชน์ สามารถเป็นตัวอย่างหรือแนวทางในการใช้ชีวิตของคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดี

ดร.จิรนิติ กล่าวว่า “ผมเรียนจบประถมมัธยมที่โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ และศึกษาต่อที่คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้รับปริญญานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง) พร้อมกับได้รับเนติบัณฑิตไทย (ลำดับที่ 1 สมัย 28) จากสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา หลังจากนั้นได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านกฎหมายปกครอง ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และปริญญาเอกด้านกฎหมายวิธีพิจารณาความ เน้นมาทางอาญา จากมหาวิทยาลัยจอร์จ วอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา

ระหว่างศึกษาได้เดินทางเข้ามาทำปริญญานิพนธ์ที่ชุมชนแออัดคลองเตย หลังจากนั้นได้เริ่มต้นการทำงานเป็นผู้พิพากษามาตั้งแต่ปี 2525, เป็นเลขานุการศาลฎีกา, หัวหน้าคณะศาลอุทธรณ์, อธิบดีศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และเรื่อยมา จนมารับตำแหน่งในปัจจุบันคือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ในปี 2563

การที่ผมได้รับพระราชทานทุนอานันทมหิดล ถือเป็นมงคลที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต เพราะเป็นทุนที่มาจากพระบาท สมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรโดยตรง อีกทั้งยังเป็นทุนของนักศึกษาปริญญาตรีที่มีเกียรติยศสูงสุด และที่ผ่านมาผมยังได้รับเกียรติให้เป็นกรรมการและเลขานุการในการคัดเลือกนักศึกษาในแผนกธรรมศาสตร์มาตั้งแต่ปี 2539

สำหรับการนำพระราชกรณียกิจมาปรับใช้ในการทำงานก็มีหลายอย่าง ทั้งพระวิสัยทัศน์การมองโลกในมุมบวก, การนำความรู้เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์กับประเทศไทย และที่ผมประทับใจมากที่สุดคือพระวิสัยทัศน์ของท่าน ที่ทรงให้ทางสำนักพระราชวังมาขอความช่วยเหลือจากแผนกโสตทัศนศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในเรื่องเทคโนโลยีการถ่ายทำ มุมกล้องบรรยากาศในห้องเรียน และการเรียนการสอนต่างๆ ที่ต่อมาเรื่องนี้ได้พัฒนาต่อเนื่องจนกลายเป็น DLTV มูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์

ซึ่งในปัจจุบันเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มทุกช่วงวัย โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในชนบทห่างไกลกว่า 31,000 แห่ง ทำให้มีจำนวนครูและนักเรียนที่ได้รับโอกาสเพิ่มขึ้นกว่า 1,500,000 คน

ในโลกปัจจุบันเรากำลังเผชิญปัญหามากมาย หรือที่ทางสังคมศาสตร์เรียกว่าเป็นยุคปฎิวัติเทคโนโลยี หลายสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เกิดปัญหาขึ้นในหลากรูปแบบ ประเทศไทยยังโชคดีที่ไม่เดือนร้อนมากนักเพราะมีทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ยังเน้นผลผลิตทางการเกษตร และการไม่ทำอะไรที่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป ซึ่งท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ทุกภาคส่วนได้มองเห็นความสำคัญของการศึกษา ซึ่งแต่เดิมเป็นแค่การเรียนรู้จากหนังสือ แต่ในปัจจุบันเป็นการเรียนรู้ในทุกเรื่อง

ที่สำคัญต้องเรียนรู้ว่าโลกจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างไรให้มีความสุข กลไกในการเรียนรู้นอกจากจะเรียนผ่านหนังสือหรือโลกออนไลน์แล้ว ควรจะเป็นการเรียนรู้แบบต่อเนื่อง เหมือนกับที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงแนะนำในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง ให้กับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นราธิวาส ฯลฯ

ดร.จิรนิติ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในชีวิตที่เหลืออยู่ของผม สิ่งที่อยากทำให้กับประเทศชาติก็คือการทำหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญให้ดีที่สุด เพราะศาลรัฐธรรมนูญเมื่อได้ตัดสินอะไรลงไปแล้ว จะมีผลกระทบต่อสังคม ระบบการปกครองในภาพรวมของประเทศ ดังนั้นจึงต้องพยายามดูแลรัฐธรรมนูญ, กฎหมาย ให้มีความมั่นคงเข้ม แข็ง เพื่อให้บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย และการพัฒนาจะเกิดขึ้นตามมา ซึ่งกฎหมายและความยุติธรรมเป็นเงื่อนไขที่สำคัญต่อเรื่องดังกล่าว เพราะการที่คนมาอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เราจำเป็นต้องเสียสละเสรีภาพบางส่วน เพื่อจะอยู่ร่วมกับคนอื่นได้อย่างมีความสุข ครับ

 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ