นางสาวสวรรยา นานาเสถียรกุล เจ้าของผลงานหนังสือชื่อ Accidentally in Love บังเอิญรัก ที่ใช้นามปากกา “จอมรวินทร์” โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันจันทร์ (23 ส.ค.) ว่าตนถูกหน่วยงานรัฐละเมิดลิขสิทธิ์ ด้วยการสแกนหนังสือเล่มดังกล่าวแล้วนำไปเผยแพร่ในห้องสมุดหลายแห่งและผ่านอินเทอร์เน็ต
นักเขียนรายนี้ระบุว่า ห้องสมุดของรัฐที่นำผลงานของตนไปเผยแพร่ออกสู่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต คือ
- ห้องสมุดประชาชนอำเภอสอง จังหวัดแพร่
- ห้องสมุดประชาชน อำเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม
- ห้องสมุดประชาชนเฉลิมราชกุมารี อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต
- ห้องสมุดประชาชน จังหวัดกระบี่
- ห้องสมุดประชาชน สำนักงาน กศน. อำเภอหล่อยูง จังหวัดพังงา
นางสาวสวรรยา โพสต์ต่อไปว่า เมื่อตนติดต่อไปยังห้องสมุดเหล่านี้ กลับได้รับคำตอบมาว่าเป็นนโยบายของส่วนกลาง ที่อนุญาตให้สแกนไปเผยแพร่ รวมถึงพิมพ์ออกมาเผยแพร่เองด้วย และไม่เกรงกลัวว่าจะถูกนักเขียนดำเนินคดี เพราะอ้างว่ามีหน่วยงานของรัฐสั่งให้ทำ
“เมื่อได้รับนโยบายมาอย่างนี้ ทางหน่วยงานท้องถิ่นทุกแห่งจึงไม่สนใจแม้แต่จะทำจดหมายขออภัย บางแห่งไม่ยอมรับว่าตนเองกระทำผิดจนกว่าจะได้รับหลักฐานและเอกสารทวงถามความรับผิดชอบจากตัวแทนทางกฎหมาย หลังจากได้รับแล้ว ก็ทำเพียงแค่ส่งหนังสือขออภัยโดยไม่ขอรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทำตามนโยบายของส่วนกลาง”
นายวรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) กระทรวงศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ประเด็นนี้ต่อสำนักข่าวมติชนออนไลน์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า หลังจากทราบว่านางสาวสวรรยาติดต่อไปยังห้องสมุดเหล่านี้ ตนสั่งให้ถอดไฟล์หนังสือดังกล่าวออกไปแล้ว และขออภัยแล้ว แต่นักเขียนอาจยังไม่พอใจ จึงยังนำภาพที่แคปไว้มาดำเนินคดี
นายวรัท เผยกับมติชนต่อไปว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากเจตนาที่จะแสวงหาผลกำไร แต่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของครูบรรณารักษ์ และตนไม่อยากให้มีการฟ้องร้อง แต่ถ้าจะดำเนินคดีกันจริงๆ หน่วยงานก็มีนิติกรที่จะดูแลครูเหล่านี้
นางสาวสวรรยา กล่าวในโพสต์ล่าสุดนี้ ถึงการตอบโต้ของนายนายวรัทว่าเป็นการ “ปกป้องผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง” ไม่ใช่แค่นั้นยังกรานว่าจะไม่ชดใช้ค่าเสียหายอีกด้วย
ไม่ใช่แค่นั้น เจ้าของผลงานรายนี้เผยอีกว่า ตนและเพื่อนนักเขียนที่ได้รับผลกระทบ เผชิญกับอุปสรรคหลายอย่าง ตั้งแต่การเก็บหลักฐาน หาพยานที่รู้เห็นกับการละเมิดลิขสิทธิ์ และแม้แต่การแจ้งความเอง เพราะตำรวจที่สถานีตำรวจหลายแห่งก็ไม่รับเรื่อง โดยให้เหตุผลว่าหน่วยงานราชการเป็นละเมิด ไม่ใช่แค่นั้นพวกตนยังต้องเสียค่าจ้างตัวแทนทางกฎหมายไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อคดี