วันที่ 15 ต.ค.บีบีซีรายงานว่า ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจีนพากันตามหาและชื่นชมคนประท้วงต่อต้านสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ซึ่งนับเป็นการประท้วงที่หาได้ยากและรุนแรง นับเป็นความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นก่อนการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งคาดว่านายสีจะได้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์เป็นสมัยที่ 3 ในวันที่ 16 ต.ค.นี้
ผู้ประท้วงลึกลับรายนี้ปีนขึ้นสะพานซื่อถงในเขตไห่เตี้ยน กรุงปักกิ่ง และแขวนป้ายผ้าขนาดใหญ่ 2 ผืนที่ราวสะพาน ทั้งการเรียกร้องให้ยุตินโยบายโควิดเป็นศูนย์ที่รุนแรงและการโค่นอำนาจประธานาธิบดีสี ผู้ประท้วงลึกลับรายนี้ยังจุดไฟเผาล้อยางรถยนต์และผู้คนแถวนั้นได้ยินเสียงตะโกนใส่โทรโข่ง
ขณะที่สื่อรัฐยังคงเงียบระหว่างที่รูปและคลิปวิดีโอการประท้วงถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ ส่งผลให้มีการปราบปรามอย่างฉับพลัน โดยการเซนเซอร์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอพพลิเคชั่นวีแชต ซึ่งชาวจีนส่วนใหญ่นิยมใช้ ทำให้ชื่อของชายผู้ประท้วงถูกเซนเซอร์
การอ้างอิงเหตุการณ์ประท้วง และคำค้นสำคัญถูกลบออกจากโซเชียลมีเดียจีน อาทิ ไห่เตี้ยน การประท้วงที่ปักกิ่ง สะพานซื่อถง ถูกปิดกั้นการค้นหาในเว่ยป๋อ หลายรายงานแจ้งว่า มีผู้ถูกจับกุม 1 คน ฐานพัวพันการประท้วง โดยปรากฏภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายล้อมผู้ถูกจับกุมรายนี้ ซึ่งสวมหมวกสำหรับงานก่อสร้างสีเหลืองและชุดสีส้ม
ผู้ใช้โซเชียลมีเดียจำนวนมากชื่นชมการประท้วงเดี่ยวครั้งนี้ ยกย่องว่าเป็นฮีโร่ และอ้างถึงผู้ประท้วงว่า เป็นชายรถถังหรือขบถนิรนามคนใหม่ ซึ่งหมายถึงชายชาวจีนนิรนามที่ยืนหน้ารถถังระหว่างเหตุการณ์ประท้วงเทียนอันเหมินในปีพ.ศ.2532
นักสืบโซเชียลพยายามที่จะตามร่องรอยขบถนิรนามรายนี้ โดยเน้นไปที่นักวิจัยและนักฟิสิกส์ที่มาจากหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางเหนือของจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าชายคนนี้เคยอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้จริง
จากการค้นประวัติพบว่า ชายคนดังกล่าวโพสต์คำแถลงอุดมการณ์บน ResearchGate (รีเสริ์ช เกต) เว็บไซต์เผยแพร่งานวิจัยอันโด่งดัง ต่อมาคำแถลงอุดมการณ์ถูกลบออกจากเว็บไซต์ โดยในเอกสารคำแถลงการณ์ 23 หน้า เรียกร้องให้หยุดงานประท้วงและกระทำการอารยะขัดขืน อาทิ ทุบทำลายศูนย์ตรวจหาโควิด เพื่อหยุดเผด็จการสี จิ้นผิงจากการครองอำนาจอย่างผิดกฎหมายต่อไป เพื่อที่ว่าจีนสามารถเริ่มเข้าสู่เส้นทางประชาธิปไตยและเสรีภาพเสียที
+++++++++