ยูทูบเบอร์หนุ่ม ทดลองวิ่ง 5 กิโลเมตรทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือน เผยให้เห็นการเปลี่ยนแปลงร่างกายที่น่าทึ่ง
ตอนนี้ก็ผ่านมาแล้ว 2 สัปดาห์ในปี 2025 ซึ่งหมายความว่าหลายๆ คนคงยังพยายามรักษาปณิธานปีใหม่ ในการลดเหล้าและหันมาฟิตหุ่นให้ได้
แต่หากคุณรู้สึกท้อแท้ในเช้าวันมกราคมที่หนาวเย็นและสงสัยว่า “การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะส่งผลอะไร?” นี่คือวิธีที่ชายคนหนึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงร่างกายได้ภายใน 1 เดือน หลังจากเริ่มวิ่งทุกวัน
ในปี 2021 ลุค ลองเดน ได้บันทึกการเดินทางของเขาผ่านยูทูบและแชร์ประสบการณ์การเริ่มวิ่งในฐานะมือใหม่ ซึ่งต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนัก
“คุณจะไม่รู้เลยว่าคุณฟิตแค่ไหน จนกว่าจะเริ่มวิ่งและต้องหยุดหลังจากวิ่งไปแค่ 2 นาที”
ลองเดนใช้เวลา 32 นาที 58 วินาทีในครั้งแรก ซึ่งหมายความว่าเขามีเป้าหมายที่จะต้องทำให้ดีกว่าในอีก 29 วันที่เหลือ
แม้จะมีความเจ็บปวดจากการเป็นนักวิ่งใหม่ แต่ทุกอย่างเริ่มดีขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับลองเดน ซึ่งพัฒนาขึ้นทุกวัน แม้จะมีอาการบาดเจ็บที่ขาและปวดหลัง
หลังจาก 30 วัน ลองเดนสามารถลดเวลาได้ประมาณ 10 นาที เหลือเวลา 21 นาที 40 วินาที ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่น่าทึ่ง
เวลาวิ่งที่ดีขึ้นไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเดียวที่ลองเดนสังเกตเห็น เขายังได้แชร์คลิปตัวเองทั้งตอนเริ่มต้นและสิ้นสุดการท้าทาย ซึ่งเขาดูเหมือนจะผอมลงอย่างเห็นได้ชัด
การวิ่ง 5 กิโลเมตรทุกวันเป็นความคิดที่ดีหรือไม่? ลองเดนไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกได้รับแรงบันดาลใจและตัดสินใจเริ่มวิ่งทุกวัน โดยมีผู้ใช้ Reddit หลายคนที่อ้างว่าได้ลดน้ำหนักและเห็นประโยชน์ต่อสุขภาพจากการวิ่ง แต่การเปลี่ยนจากชีวิตที่นั่งอยู่กับที่ไปวิ่ง 5 กิโลเมตรทุกวันนั้นปลอดภัยแค่ไหน?
ในการสนทนาเกี่ยวกับข้อดีข้อเสียของการวิ่งมากขนาดนี้ ผู้ใช้ Reddit คนหนึ่งได้ชี้ให้เห็นว่า การออกกำลังกายหนักเกินไปในช่วงเวลาสั้นๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้
“ใช่, การวิ่งดีมาก แต่คุณไม่สามารถเปลี่ยนจากการนั่งอยู่กับที่ไปวิ่ง 5 กิโลเมตรทุกวันได้เช่นนั้น เชื่อเถอะ, ฉันเคยลองมาแล้ว” พวกเขาเขียนไว้
“คุณต้องค่อยๆ เพิ่มปริมาณการวิ่งไปตามเวลา การเริ่มวิ่งระยะยาวทันทีในขณะที่ร่างกายยังไม่พร้อม จะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดและบาดเจ็บเพราะร่างกายยังไม่พร้อม”
นักวิทยาศาสตร์การออกกำลังกาย บิอารา เวบสเตอร์ กล่าวกับ LiveStrong.com ว่า “เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บสำหรับมือใหม่ ฉันขอแนะนำให้วิ่งวันเว้นวัน และควรผสมโปรแกรมด้วยการฝึกความแข็งแรง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลางและขา หากการวิ่งเป็นเป้าหมาย หรือการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอทางเลือก เช่น การว่ายน้ำหรือปั่นจักรยาน”