นักวิชาการ แนะ เพื่อไทย ชู นโยบาย-หาเสียง แยกให้ชัด ทำให้เกิดความต่างจาก ก้าวไกล

Home » นักวิชาการ แนะ เพื่อไทย ชู นโยบาย-หาเสียง แยกให้ชัด ทำให้เกิดความต่างจาก ก้าวไกล


นักวิชาการ แนะ เพื่อไทย ชู นโยบาย-หาเสียง แยกให้ชัด ทำให้เกิดความต่างจาก ก้าวไกล

นักวิชาการ แนะ เพื่อไทย ชูนโยบาย-หาเสียงให้ชัด ชี้ ก้าวไกล แยกชัด ไม่เอาฝั่งตรงข้าม ระบุ ฐานคะแนนกลุ่มเดียว ต้องทำให้เกิดความต่าง ดึงความสนใจประชาชน

นายพัฒนะ เรือนใจดี อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง กล่าวถึงผลโพลนายกรัฐมนตรี และพรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการ ของมติชน ร่วมกับ เดลินิวส์ ว่า

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม

ขอวิเคราะห์ในแง่มุมการเมือง โดยไม่ขอวิจารณ์ถึงหลักเกณฑ์ของการทำโพล จะเห็นได้ว่า คะแนนผลโพลที่สำรวจความเห็นประชาชน กว่า 8 หมื่นไอพี พบว่า ฝ่ายประชาธิปไตย ยังมีคะแนนนำอยู่ แต่สลับกันที่บุคคลที่อยากให้เป็นนายกฯ จากหลายโพลที่ผ่านๆ มา คือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายเศรษฐา ทวีสิน กลายมาเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นอันดับหนึ่ง

และคะแนนที่ทิ้งกันไม่ห่าง ระหว่าง นายพิธา กับ น.ส.แพทองธาร ซึ่งเป็นคนกลุ่มเดียวกันคือ ไม่เอาเผด็จการ แม้ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร และ พรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำมาตลอด

ในภาพรวมถือว่า เป็นเรื่องดีกับฝ่ายประชาธิปไตย แต่ผลที่ออกมาเป็นข้อสังเกตที่ พรรคเพื่อไทย คงต้องให้ความสนใจ ต้องคิดและปรับกลยุทธ์ใหม่ เนื่องจากคะแนนที้ได้แสดงว่ามาจากเค้กก้อนเดียวกัน ที่แบ่งไปที่ก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย อาจจะถูกตัดคะแนนตรงนี้ไป และส่งผลกระทบต่อส.ส.เขตได้

นายพัฒนะ กล่าวว่า ต้องดูช่วงความห่างของคะแนนระหว่าง นายพิธา และ น.ส.แพทองธาร ด้วย ถ้าไล่เลี่ยกันห่างไม่ถึง 10 ก็มีนัยยะอีกอย่าง ถ้าห่างกันมากคิดว่าจะกระทบกับ ส.ส.เขตมาก ดังนั้นเวลานี้พรรคเพื่อไทย ควรหันมาสนใจและศึกษาวิธีการหาเสียงของ นายพิธา ในช่วงที่ผ่านมาว่า ทำอย่างไร จึงทำให้ประชาชนหันมาสนใจได้

พรรคเพื่อไทยต้องแก้โจทย์ตรงนี้ให้ตก ถ้าแก้ไม่ตกคะแนนของนายพิธา ก็จะห่างออกไป และจะกระทบกับ ส.ส.เขต แน่นอน และจุดที่เห็นได้ชัดคือ การหาเสียงของ นายพิธา และ พรรคก้าวไกล ที่ประกาศนโยบายออกมาชัดเจน ทั้งเรื่องการแก้มาตรา 112 การไม่เอา 3ป. เรื่องเกณฑ์ทหารฯ ทำให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่า ไม่เอาฝั่งตรงข้าม และเป็นประชาธิปไตย

ที่ต่างจาก พรรคเพื่อไทย ที่ยังมีข้อกังขาที่จะไปรวมพรรคอื่นหรือไม่ การประกาศแบบนี้ของก้าวไกลทำให้คนตัดสินใจเลือกได้ทันที โดยเฉพาะคนที่ไม่ต้องการฝ่ายเผด็จการ

ในขณะที่พรรคเพื่อไทยก็มีนโยบายที่สำคัญและน่าสนใจ เช่น เรื่องเงิน 10,000 บาท แต่ยังขาดการอธิบายรายละเอียดให้ชัดเจน พรรคเพื่อไทยต้องปรับกลยุทธ์เหล่านี้ เพื่อให้ทิ้งหนีห่างจากนายพรรคก้าวไกลให้ได้

“อย่างที่บอก ถ้าไม่หาเสียงทำเกิดความแตกต่าง และประกาศให้ชัด การที่มีฐานเสียงเป็นคนกลุ่มเดียวกันและกัน ก็จะทำให้เกิดความลำบาก เวลานี้ไม่ต้องกังวลกับพรรคของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่อยู่กันคนละขั้ว

แต่ต้องหันกลับมามองฝ่ายเดียวกันคือ พรรคก้าวไกล จะต้องทำอย่างไรให้แตกต่าง และมีความชัดเจนในเรื่องของนโยบาย เวลานี้พลังเงียบอาจมีไม่เท่าไหร่ เพราะประชาชนได้ตัดสินใจแล้ว และรอวันลงคะแนน เท่านั้น” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ