“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้ส่งนักกีฬาประเภทถนนทีมชายชุดดาวรุ่งไปร่วมการแข่งขันจักรยานทางไกลรายการ “ทัวร์ ออฟ ซาลาลาห์ 2022” เมื่อวันที่ 11-14 กันยายน ที่ประเทศโอมาน ซึ่งมีนักกีฬา 6 คน ประกอบด้วย จ.ส.ต.ณัฐพล จำชาติ, นายมูฮาหมัด ฮานาฟี กือจิ, นายพลวัต สกุลธนาภูมิ, นายพงษ์สิน พลกล้า, นายภูริเดช อินทะผิว, นายศุภโชค แก้วสุยะ โดยมี ร.ต.อ.อดิศักดิ์ วรรณศรี เป็นผู้ฝึกสอน และ นายณธรรศ นาคมณี เป็นช่างประจำทีม ผลปรากฏว่านักปั่นไทยชุดนี้สร้างผลงานเป็นที่น่าพอใจ ทั้งที่มีประสบการณ์เป็นรองนักปั่นนานาชาติที่เข้าประชันฝีเท้าทั้งหมด 10 ทีม จาก 5 ประเทศ

พลเอกเดชา กล่าวว่า ทีมชาติไทยจบการแข่งขันเป็นอันดับที่ 3 ในประเภททีมเวลารวม เป็นรองเพียงทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งขนนักปั่นทีมชาติชุดใหญ่มาแข่งขันจนคว้าแชมป์ไปครอง และอันดับที่ 2 ทีมไซเคิล เคโอเอ็ม เอ็นอาร์โอ ทีมชั้นนำของโอมานที่มีนักกีฬาจากยุโรปร่วมทีมถึง 3 คน ขณะที่การแข่งขันแต่ละสเตจนั้น นักปั่นรุ่นใหม่ของทีมชาติไทยก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อยู่ในกลุ่มหน้าและติดท็อป 10 ของทุกสเตจ โดยเฉพาะสเตจสุดท้ายเมื่อวันที่ 14 กันยายน ศุภโชค แก้วสุยะ เกือบคว้าแชมป์สเตจ โดยสปรินท์เข้าเส้นชัยแพ้นักปั่นเจ้าถิ่นไปเพียงครึ่งล้อ ส่วนเพื่อนร่วมทีมต่างก็ติดอันดับแถวหน้าทั้งหมด โดย พงษ์สิน เข้าเส้นชัยอันดับ 4, จ.ส.ต.ณัฐพล อันดับ 5, มูฮัมหมัด ฮานาฟี อันดับ 6, ภูริเดช อันดับ 8 และพลวัต อันดับ 20

“นักปั่นทีมชาติไทยชุดนี้เป็นนักปั่นดาวรุ่งเกือบทั้งทีม อายุเฉลี่ย 18-19 ปี มีเพียง จ.ส.ต.ณัฐพล จำชาติ กับ มูฮัมหมัด ฮานาฟี กือจิ สองคนเท่านั้นที่มีประสบการณ์มากกว่าเพื่อน โดยนักกีฬาแต่ละคนก็มาจากการแข่งขันจักรยานชิงแชมป์ประเทศไทยประเภทต่าง ๆ ที่สมาคมฯ จัดขึ้นตลอดทั้งปี จำนวน28 สนาม รวมทั้งมีการแข่งขันในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีเพิ่มขึ้นมาด้วย เพื่อเฟ้นหานักกีฬารุ่นใหม่ตามแผนยุทธศาสตร์ของสมาคมกีฬาจักรยานฯ”

“ขณะเดียวกันก็ยังมีนักปั่นดาวรุ่งอีกหลายคนที่อยู่ในข่ายที่จะถูกเรียกตัวเข้าทีมชาติไทยในการแข่งขันประเภทถนน ช่วงสามเดือนสุดท้ายของปีนี้และต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการเก็บคะแนนสะสมคัดเลือกนักปั่นประเภทถนนเข้าสู้ศึกในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส”

พลเอกเดชา กล่าวต่อไปว่า หลังจากที่นักปั่นไทยไปทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันจักรยานทางไกล “ทัวร์ ออฟ ซาลาลาห์” ที่ประเทศโอมาน ส่งผลให้ทีมชาติไทยเนื้อหอมสุด ๆ มีหลายชาติส่งหนังสือเชิญเข้าร่วมการแข่งขันมากมาย ล่าสุด ประเทศสิงคโปร์ได้เชิญให้ไปแข่งขันรายการ “ตูร์ เดอ ฟรองซ์ พรูเด็นเชียล สิงคโปร์ ไครทีเรียม” ในวันที่ 30 ตุลาคม ที่สนามรถยนต์ฟอร์มูล่าวัน สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ ซึ่งการแข่งขันรายการนี้มีนักปั่นระดับแชมป์ตูร์ เดอ ฟรองซ์ มาร่วมชิงชัยด้วย นี่คือผลพวงจากการที่สมาคมฯ สร้างนักกีฬาดาวรุ่งขึ้นมาทดแทนรุ่นพี่ ทำให้มีนักกีฬาเพียงพอที่จะส่งไปแข่งขันรายการต่าง ๆ ทั้งที่ได้รับเชิญ และสมาคมฯ ส่งไปแข่งขันเอง

นายกสองล้อไทย เจ้าของฉายา “หมึกต้นแบบ” กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้สมาคมกีฬาจักรยานฯ จะส่งนักปั่นทีมชาติไทยประเภทถนนไปแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก UCI Road World Championships 2022 ระหว่างวันที่ 18-25 กันยายน ที่เมืองวูลองกอง ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งทีมชาติไทยส่งเข้าแข่งขัน 3 รุ่น ประกอบด้วย รุ่นประชาชนชาย ส.ท.สราวุฒิ ศิริรณชัย, นายพีระพล ชาวเชียงขวาง รุ่นประชาชนหญิง ส.ต.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช, ส.ต.หญิง ชนิภรณ์ บัตริยะ และรุ่นเยาวชนชาย นายณัฐวัตร มังกรวงศ์, นายกมลฐชา อินทร์ทอง โดยมี “โค้ชตั้ม” วิสุทธิ์ กสิยะพัท เป็นผู้จัดการทีม ร.ต.อ.ณัฐพล จีบถาวรธาวิต เป็นผู้ช่วยและช่างประจำทีม

พลเอกเดชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ในระหว่างการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก สหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ก็จะมีการจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี หรือ ยูซีไอ คองเกรส ในวันที่ 22 กันยายน ควบคู่กันไปด้วย ซึ่งตนได้รับการแต่งตั้งจากสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (เอซีซี) ให้เป็น 1 ใน 9 ผู้แทนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง หรือ Voting Delegate ของทวีปเอเชีย ในการลงมติสำคัญในที่ประชุมครั้งนี้ นอกจากการประชุมคองเกรสเพื่อลงคะแนนเสียงในเรื่องต่าง ๆ แล้ว ตนก็ยังจะร่วมหารือกับ มร.ลี แต ฮุน รองนายกสมาคมจักรยานแห่งเกาหลีใต้ และกรรมการบริหารเอซีซี ในประเด็นการเพิ่มความร่วมมือในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานกีฬาจักรยานของทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะในประเภทลู่ระยะกลางที่ทางเกาหลีใต้มีการพัฒนาไปอย่างมาก