นักบินออกคำเตือนสำคัญสำหรับผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินขณะเป็นหวัด ไม่ใช่แค่เรื่องการแพร่เชื้อเท่านั้น
ไม่มีอะไรทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวได้มากไปกว่า การตื่นเช้าวันเดินทางแล้วพบว่าตัวเองป่วยเป็นหวัด ทั้งน้ำมูกไหลและหนาวสั่น ใครจะอยากใช้วันหยุดแบบนั้นกัน?
แต่บางครั้งเราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำตามแผนที่จองไว้ล่วงหน้า แม้จะมีอาการป่วยเล็กน้อย ทำให้การขึ้นเครื่องทั้งที่ไม่สบายกลายเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
อย่างไรก็ตาม นักบินคนหนึ่งได้เผยข้อมูลชวนสะพรึงเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณขึ้นเครื่องขณะป่วย ซึ่งอาจเลวร้ายกว่าที่คิด
กัปตันเจเมส การ์เซีย นักบินและครีเอเตอร์ชื่อดังบน TikTok ออกมาเตือนว่าการเดินทางด้วยเครื่องบินขณะเป็นหวัดอาจส่งผลร้ายมากกว่าการแพร่เชื้อให้คนรอบข้าง
ปัญหาหลักเกิดจากแรงดันอากาศในห้องโดยสารที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลเสียต่อหูโดยตรง
“ถ้าผมเป็นหวัด ท่อยูสเตเชียน (ท่อที่เชื่อมระหว่างหูกลางกับลำคอ) จะอักเสบ ทำให้ไม่สามารถปรับแรงดันได้ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้รู้สึกเจ็บหู” กัปตันอธิบายผ่าน The Mirror “สิ่งนี้นำไปสู่ภาวะ Barotrauma”
Ear Barotrauma คืออะไร?
ตามข้อมูลจาก WebMD Ear Barotrauma คือภาวะที่ทำให้รู้สึกเจ็บหรือแน่นในหูขณะโดยสารเครื่องบิน โดยเฉพาะช่วงที่เครื่องบินกำลังไต่ระดับขึ้นหรือลดระดับ สาเหตุเกิดจากความแตกต่างของแรงดันระหว่างหูกลางกับบรรยากาศภายนอก
อาการที่อาจพบ ได้แก่:
- ปวดหู
- รู้สึกเหมือนมีอะไรอุดในหู
- การได้ยินเหมือนถูกปิดกั้นหรืออู้อี้
ส่วนใหญ่แล้ว ผู้คนมักเผชิญกับภาวะ Barotrauma ในระดับเล็กน้อย ซึ่งมักหายไปเอง แต่หากอาการรุนแรงอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน โดยเฉพาะเมื่อมีอาการคัดจมูกจากหวัดร่วมด้วย
“ถ้าอาการรุนแรงมากและคุณมีอาการคัดจมูกหนัก แก้วหูอาจถึงขั้นแตกได้ นี่เป็นเรื่องอันตรายมาก” กัปตันการ์เซีย กล่าวเสริม
แน่นอนว่าภาวะแทรกซ้อนจาก Barotrauma รุนแรงไม่ใช่เรื่องน่าพึงใจ อาจทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะ แก้วหูแตก หรือแม้กระทั่งสูญเสียการได้ยิน ซึ่งคงทำให้วันหยุดหมดสนุกไปอย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ กัปตันการ์เซีย ได้แนะนำวิธีคลาสสิกในการช่วยปรับแรงดันในหูว่า “แม้จะเดินทางครั้งเดียว ผู้โดยสารก็ควรระวัง หายาหรือสเปรย์ลดคัดจมูกติดตัวไว้ เคี้ยวหมากฝรั่ง และฝึกปรับแรงดันในหูด้วยวิธีต่าง ๆ” เขากล่าว