ไหวพริบดีมาก! ตร.จับทันควัน โจรลักจยย.ป้ายแดง ก่อนเจ้าของจะรู้ว่ารถหาย ส่วนอีกคนชิงหนีทิ้งเพื่อนโดนรวบ นศ.หนุ่มโร่แจ้งความ เพิ่งรู้โจรนั่งบนโรงพักแล้ว

วันที่ 27 เม.ย.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจยย.และซ้อยท้ายกันมาที่หอพักแห่งหนึ่ง ในซอยชยางกูร 18 บ้านนาควาย ถนนชยางกูร ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะกระโดดลงแล้วเดินเลือกรถจยย. กระทั่งไปเจอรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สภาพใหม่ ยังไม่ได้ป้ายทะเบียน ก่อนลงมือขโมยออกมา โดยเพื่อนอีกคนใช้เท้าถีบรถจยย.คันที่ถูกก่อเหตุ

แต่ระหว่างทางที่กำลังหลบหนีมาถึงหน้าหัวสนามบิน ต.ไร่น้อย คนร้ายไปเจอกับชุดสายตรวจรถจยย. นำโดย ร.ต.อ.รุ่งวิทย์ วิพัฒน์โสภากร รอง สวป.สภ.เมืองอุบลราชธานี เป็นหัวหน้าชุด สงสัยพฤติกรรมที่กำลังใช้เท้ายันรถมาในที่เปลี่ยวกลางดึก จึงเรียกขอตรวจสอบ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ คนร้ายอีกคนจึงเร่งเครื่องรถหลบหนี ปล่อยให้คนร้ายที่ขโมยรถจยย.อยู่คนเดียว ทำให้ต้องทิ้งรถจยย.แล้งวิ่งหนี แต่ก็ถูกควบคุมตัวได้ทันควัน ทราบชื่อคือ นายเจษฎา เพิ่มศรี อายุ 27 ปี

เบื้องต้นรับสารภาพว่า เคยติดคุกในคดีลักรถจยย. เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2563 ก็มาทำอาชีพรับจ้างก่อสร้างรายวัน หาเงินเลี้ยงตัวเองและแม่ แต่เมื่อเจอกับโควิด-19 ระบาดมาอย่างต่อเนื่องนานร่วม 2 ปี ทำให้มีงานทำบ้าง ไม่มีงานทำบ้าง จึงไม่มีเงินใช้

พอดี นายอั๋น เพื่อนที่หลบหนีไป ติดต่อให้ตนไปขโมยรถ แล้ว นายอั๋น ซึ่งเป็นคนอยู่ใน อ.โขงเจียม มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน จะเป็นคนนำรถไปขายให้กับแก็งค้ารถเถื่อนในประเทศลาว และจะแบ่งเงินให้ตนคันละ 5,000 บาท จึงตัดสินใจกลับมาขโมยรถอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่กำลังสอบสวน นายเจษฎา อยู่นั้น ก็มี นายนิธิกร ชาดดา อายุ 23 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เจ้าของรถคันที่ถูกขโมยเข้ามาแจ้งความรถหาย เจ้าหน้าที่จึงให้ดูรถที่ยึดได้จาก นายเจษฎา ก็พบว่าเป็นรถคันเดียวกัน

พร้อมกล่าวว่า เหมือนถูกหวย เพราะเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่ารถถูกขโมย ตนก็ทำใจ เพราะรู้ว่าโอกาสจะได้รถที่ถูกขโมยคืนไม่ถึงร้อยละ 10 ยิ่งรถของตนเพิ่งซื้อมาได้ 3 เดือนเศษ ยังไม่มีแผ่นป้ายทะเบียน ก็ยิ่งติดตามคืนได้ยาก จึงขอยกนิ้วให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ ที่มีไหวพริบสงสัยพฤติกรรมคนร้าย ทำให้จับคนร้ายได้

ด้าน ร.ต.อ.รุ่งวิทย์ กล่าวว่า ระหว่างชุดสายตรวจกำลังตระเวนดูแลพื้นที่ในจุดเปลี่ยว พบเห็นรถต้องสงสัยที่คนร้ายใช้เท้ายันรถมา จึงแสดงตัวขอตรวจค้น เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่เรียกให้หยุดรถ เพื่อตรวจค้นก็รีบเร่งเครื่องรถขี่หลบหนี ส่วนอีกคนที่อยู่กับรถที่ขโมย ก็ทิ้งรถพยายามจะวิ่งหนี จึงเข้าจับกุมไว้ จึงขอเตือนผู้มีรถใช้ในช่วงนี้ ให้ดูแลทรัพย์ให้ดี เพราะมีคนตกงานจากสภาพเศรษฐกิจและโรคระบาดมากกว่าปกติ มีโอกาสที่จะถูกขโมยมากขึ้นด้วย