นฤมล น้ำตาคลอ แถลงสละปาร์ตี้ลิสต์ ชี้ต้องผลัดใบ เปิดทางคนรุ่นใหม่ทำงาน ยันอยู่กับพปชร. ปัดน้อยใจ เผย ‘บิ๊กป้อม’ ไฟเขียว ชี้ลำดับ 20-30 ไร้ที่นั่งคนรุ่นใหม่
เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 24 มี.ค.2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ แถลงว่า พรรคมีบุคลากรคุณภาพจำนวนมาก ทุกคนมีความสามารถและมีความตั้งใจทำสิ่งที่ดีให้กับประชาชน ซึ่งตนได้รับโอกาสจากพรรค เข้ามาทำงานการเมือง ตั้งใจนำความรู้และประสบการณ์มาทำประโยชน์ตอบแทนประชาชน
การเลือกตั้งครั้งนี้ ตนอยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ บ้าง หากเราที่เคยได้รับโอกาสมาแล้ว ไม่เสียสละ คนใหม่ๆ ก็จะแทบไม่มีโอกาสได้ขึ้นมา และตนพูดเสมอว่า ถึงเวลาพรรคต้องผลัดใบ ให้พลังใหม่ได้เข้ามาทำงาน จึงแสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาและผู้บริหารพรรคว่าขอสละสิทธิที่จะได้รับการเสนอชื่อในบัญชี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ฉะนั้นวันนี้ พรรคจึงจะพิจารณาบัญชีรายชื่อใหม่อีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตการเมือง จะช่วยงาพรรคนอย่างไร นางนฤมล กล่าวว่า จะช่วยงานอย่างอื่น ตนยังมีความรับผิดชอบ เพราะทิ้งคนไว้กลางทางไม่ได้ ตนยังช่วยงานสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้สมหวัง วันนี้ยังเป็นแม่ทัพในกทม.และขึ้นเวทีปราศรัยได้ ไม่มีใครห้าม
เมื่อถามถึงกระแสข่าวป็นเพราะลำดับบัญชีรายชื่อของนางนฤมล ตกไปอยู่ลำดับที่ 20 ทำให้เกิดความไม่พอใจ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่มี และการประชุมพรรค วันที่ 22 มี.ค. มีชื่อของตนอยู่ในลำดับตามที่เป็นข่าวและเป็นตามนั้นจริงๆ แต่เมื่อมองลำดับ 20-30 อันดับแรก ไม่เห็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจ ทุ่มเททำงานให้พรรคจะมีโอกาสเข้ามาทำงาน ถ้าเราไม่ถอยไม่เสียสละ จึงอยากให้เขาเข้ามาทำงานการเมือง
ยืนยันว่าการเสียสละดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความคับข้องใจ อยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานจริงๆ ถ้าคนรุ่นใหม่ได้มาเป็นตัวแทน จะเป็นประโยชน์กับพรรค หากมีคะแนนเสียงและมีความนิยมก็จะทำให้คนเลือกพรรคมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคจัดลำดับให้ขยับมาอยู่ 1-3 จะเปลี่ยนใจหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว หากดูจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรคได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 19 คน ครั้งนี้คาดว่าจะได้ใกล้ๆเดิม หากอยู่ในลำดับ 10-20 ก็มีโอกาสเข้าสภา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค ไม่ได้คัดค้าน โดยระบุว่าตามใจ
เมื่อถามว่าหากผลเลือกตั้ง พรรคได้กลับมา 12 ที่นั่งในกทม. จะส่งผลต่ออนาคตของนางนฤมล หรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้ แค่จัดผู้สมัครลง 33 เขตก็ลำบากใจแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าการเสียสละครั้งนี้จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานจริง หรือเป็นแค่การเปิดช่องให้กับเด็กของคนบางกลุ่มเข้ามาทำงาน นางนฤมล กล่าวว่า ได้ฝากกรรมการสรรหาพิจารณา และให้โอกาสคนรุ่นใหม่ แต่ท้ายที่สุดต้องเคารพมติของกรรมการ
ส่วนที่ระบุว่าหากจัดบัญชีรายชื่อเป็นบ้านใหญ่เป็นคนของใคร หมายถึงใคร นางนฤมล กล่าวว่า ที่พูดหมายถึงตัวเอง เพราะการเลือกตั้งปี 2562 ตนไม่ได้มาจากตระกูลบ้านใหญ่ แต่ได้รับความเมตตาจากผู้บริหารพรรค ยังสำนึกในพระคุณมาตลอด
เมื่อถามว่าจะลาออกจากเหรัญญิกพรรคด้วยหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ขณะนี้ยัง ส่วนอนาคตยังไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้
เมื่อถามว่าการประกาศสละลำดับบัญชีรายชื่อ จะส่งผลกระทบในช่วงเวลานี้ที่ใกล้เลือกตั้งหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า เป็นเรื่องดีเพราะจะสร้างบรรทัดฐานของนักการเมืองพรรคพลังประชารัฐว่ าเราไม่ได้ยึดติดและพร้อมเสียสละให้คนอื่นได้มีโอกาส และเชื่อว่าไม่สูญเปล่าและจะทำให้ผู้สมัครมีกำลังใจ นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีใครทาบทามให้ย้ายพรรค ไปร่วมงานด้วยหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่มี ตนเกิดมาจากพรรคพลังประชารัฐ ถ้าไม่ได้โอกาสจากผู้บริหารคงไม่ได้ทำงานมาถึงวันนี้ ถ้าจะทิ้งต้องมีสำนึกในสิ่งที่เราเคยได้รับมา และไม่มีใครกดดัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นางนฤมล แถลงข่าว มีน้ำตาคลอเมื่อเล่าถึงอดีตที่มาที่ได้รับโอกาสทำงานทางการเมืองจากผู้บริหาร ขณะที่แกนนำพรรค อาทิ นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และพล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค ยืนฟังตลอดการแถลงโดยไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ