วันที่ 10 ก.ค. 66 นพ.อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์รายการ “คุยนอกจอ” ของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ถึงประเด็นของการ ประชุมรัฐสภา ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 ก.ค.66 เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี จากที่ตนโพสต์ ต้องการย้ำ 2 เรื่อง
1. จุดยืนในการโหวตนายกรัฐมนตรี
2. ส่วนประเด็นการปิดสวิตช์ ส.ว.
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการโพสต์ Facebook อำพล จินดาวัฒนะ โดยระบุว่า “พร้อมโหวตนายก” วันพฤหัสที่ 13กค.66 ที่จะถึงนี้ มีนัดประชุมรัฐสภา (สส.+สว.) เพื่อโหวตเลือกนรม.ผมเตรียมโหวตให้คนที่พรรคการเมืองรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนฯเสนอชื่อ เพื่อให้เข้าไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากบริหารประเทศต่อไป ใช้เหตุผลเดียวกันกับที่เคยใช้ตอนโหวตเลือกนรม. (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เมื่อปี62 จะกลับกลิ้งเป็นอย่างอื่นไม่ได้
ประวัติศาสตร์จะจารึกและบันทึกไว้ครับที่จริงผมก็ไม่อยากใช้อำนาจตามบทเฉพาะกาล ม.272 นี้ แต่เมื่อหน้าที่นี้ยังมีอยู่ ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ต่อไป เพื่อให้กลไกและกติกาตามรธน.ที่ใช้อยู่เดินหน้าไปได้โดยจะทำหน้าที่แบบ “ไม่ตั้งตนเป็นใหญ่” ไม่หาเหตุผลใดๆมาอ้างเพื่อขวางเสียงประชาชนในช่วง2ปีที่ผ่านมา มีความพยายามเสนอแก้ไขหน้าที่และอำนาจนี้ หรือที่เรียกว่า “ปิดสวิตช์ส.ว.” ด้วยมองว่าส.ว. ไม่ควรมีหน้าที่และอำนาจเลือกนรม.เพราะไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตยที่แท้จริง ควรเป็นหน้าที่และอำนาจของส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงเท่านั้น ซึ่งผมเห็นด้วย ดังนั้น ทุกครั้งที่มีการขอแก้ไข ผมจึงโหวตเห็นด้วยให้ปิดสวิตช์ส.ว. แต่เสียงส.ว. เห็นด้วยไม่ถึง1ใน3 (ไม่ถึง84เสียง) คือเสียงสว.ส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการให้ปิดสวิตช์ มาตรา 272 จึงยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ สวิตช์ยังเปิดอยู่ ถ้าจะอ้างปิดสวิตช์ตอนนี้ ก็จะเท่ากับอ้างเพื่อไม่ทำหน้าที่ และกลายเป็นการขัดขาคนที่ถูกเสนอชื่อ
- ธาริต อดีตอธิบดีDSI ชี้แจง พร้อมหาความยุติธรรมให้กับ 99 ศพ
- เช็กด่วน! ภาคกลาง – ภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
- 10 กรกฎานี้ ห้ามพลาด “ดาวศุกร์สว่างที่สุด” 1 ปีมี 2 ครั้งเท่านั้น!
1.จุดยืนในการโหวตนายกรัฐมนตรี ในเมื่อตนมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญบทเฉพาะกาล 272 ก็จะทำหน้าที่ต่อ จะไปอ้างอย่างอื่นไม่ได้ ส่วนจะเลือกยังไง จะเลือกโดยใช้เหตุผลตามการเลือกตั้งปี 2562 คือ คนที่พรรคการเมืองรวมตัวเกินครึ่งเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี ก็จะเลือกท่านนั้น เพื่อให้มาบริหารประเทศให้ได้ ตนจะไม่ตั้งตนเป็นใหญ่ ที่จะไปเหตุผลเพื่อมาขวางประชาชน ต้องเคารพเสียงประชาชน เพราะการหาเหตุผลใดมาอ้าง มันจะสะท้อนว่าเรามีอะไรในใจ ทำหน้าที่ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมหรือไม่
นายสรยุทธ ถามว่า ไม่กังวลเรื่อง 112 หรือคุณสมบัติของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นพ.อำพล ตอบว่า ที่ตนพูดทั้งหมด ตนไม่ได้พูดถึงพรรคใด มองว่าไม่ว่าพรรคชนะการเลือกตั้งมาแล้ว ต้องเคารพ
และการที่นำเหตุผลเรื่อง 112 หรือเรื่องอื่นๆ มาพูด ตนมองว่ามันเป็นคนละเรื่องกับการเข้าสู่นายกรัฐมนตรี เพราะการทำกฎหมายก็ต้องว่าไปตามระบบกฎหมาย คือ รัฐสภา ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการมาผูกโยงกับการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะในการเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ในปี 2562 เรายังไม่ไปแคะเหตุผลอะไรมามากมายเลย ถ้าเรามาทำตอนนี้ แสดงว่าเรามี 2 บรรทัดฐานแล้ว
2. ส่วนประเด็นการปิดสวิตช์ ส.ว. ถ้าหลักประชาธิปไตยจริงๆ ต้องไม่มีอำนาจของ ส.ว.มาเลือกนายกรัฐมนตรี คือ ให้เป็นเรื่องของสภาผู้แทนราษฎร แต่ในรัฐธรรมนูญปี 2560 กำหนดในบทเฉพาะกาลให้ ส.ว.มีอำนาจมาร่วมเลือกนายกรัฐมนตรี อันนี้คือการเปิดสวิตช์
นพ.อำพล กล่าวว่า ผ่านมา 4 ปี หลายฝ่ายมองว่าไม่เป็นประชาธิปไตย จึงของแก้ไขเพื่อปิดสวิตช์ เมื่อแก้แล้วไม่ผ่าน เพราะ ส.ว.ส่วนใหญ่ยังต้องการอำนาจนี้อยู่เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นขณะนี้สวิตช์ยังเปิดอยู่ ฉะนั้นการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ถ้าบอกว่าคนที่เคยปิดสวิตช์ ซึ่งผมก็คนหนึ่งในนั้น ฉะนั้นจะปิดสวิตช์ไปเรื่อย อันนั้นผมตะแบงแล้ว เพราะ ส.ว.ยังเป็นฐานในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะถ้าปิดสวิตช์จริงๆ ฐานการเลือกควรจะเป็น 500 ไม่ใช่ 750
“เพื่อนๆ ส.ว.ส่วนใหญ่ ที่ไม่เห็นด้วยกับการปิดสวิตช์ แล้วจะใช้เหตุผลในการปิดสวิตช์ในครั้งนี้ คำถามจะกลับไปว่า ถ้าส.ว.ปิดสวิตช์ ณ วันนั้น ฐานในการเลือกจะเหลือ500 แต่วันนี้ ส.ว.ไม่เห็นชอบ แต่ขอมีส่วนร่วมในการเลือกนายกรัฐมนตรี จะเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยในการเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไร เป็นเอกสิทธิ์จของท่าน แต่ยังต้องทำหน้าที่ จะเลือกไม่เลือกถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ว. แต่ถ้าจะไปอ้างว่าประชาชนให้ปิดสวิตช์ วันนี้ฉันจะปิดสวิตช์ ผมว่ามันผิดเวลา เพราะวันนี้ส.ว.ยังเป็นฐานในการโหวตเลือกนายกรัฐมตรีอยู่ “
ส่วนทำไมถึงออกมาแสดงท่าทีนั้น นพ.อำพล กล่าวว่า ตนทำงานอย่างมีหลักการ และทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั่วประเทศ จึงเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนในประเทศ เข้าใจความรู้สึกของภาคีเครือข่าย ที่สะท้อนว่าต้องเคารพเสียงประชาชนที่เลือกตั้งมา
นายสรยุทธ ถามว่า มีคนมาล็อบบี้หรือไม่ นพ.อำพล กล่าวว่า ไม่มี เพราะหลายคนที่รู้จักตน รู้ว่าตนมีหลักการ และมีจุดยืนในการทำงาน แต่คนอื่นตนไม่ทราบ
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่นๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY