ธรรมนัส ลั่นตามมารยาท ต้องเปิดทาง ก้าวไกล ตั้งรัฐบาล ดักคออย่าผลักภาระ ส.ว.ช่วยโหวต เผย “บิ๊กป้อม” สั่ง พปชร.ให้อยู่นิ่ง ยันไม่มีแผนสอง-ไม่มีดีลเพื่อไทย

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 16 พ.ค. 2566 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ว่าที่ ส.ส.พะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการเมืองของพรรค ว่า ตนพูดเสมอว่าการเป็นนักการเมือง ต้องเข้าใจบริบทการเมืองว่าสังคมเวลานี้ต้องการอะไร ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลได้คะแนนเลือกตั้งมากที่สุด จะให้เป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลก่อนหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตามมารยาททางการเมือง ต้องปล่อยให้พรรคก้าวไกลเขาทำไปก่อน อนาคตจะเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน และจากการพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ท่านบอกว่าเราต้องอยู่นิ่งๆ ต้องยอมรับความเป็นจริง เพราะเสียงของประชาชนสะท้อนให้เห็นว่าต้องอยู่นิ่งๆ พวกตนเข้าสภาผู้แทนราษฎร ต้องทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ส่วนกลไกสภาจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างไร เป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ว่าพรรคพปชร.จะเป็นฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน จะทำหน้าที่เต็มที่ใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า นักการเมืองต้องฟังเสียงประชาชน เมื่อประชาชนให้โอกาสพรรคก้าวไกลในการจัดตั้งรัฐบาล เราจึงต้องฟังว่าเขาทำได้หรือไม่ ไม่ควรไปแทรกแซง ต้องคำนึงถึงมารยาททางการเมืองด้วย

เมื่อถามว่า หากถึงขั้นตอนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี พรรคพปชร.จะโหวตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคก้าวไกล หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับ ส.ส. ต้องคุยกันก่อน โดยเฉพาะกับพล.อ.ประวิตร ที่ต้องฟังนโยบายว่ามีนโยบายอย่างไร เชื่อว่า ส.ส. 39 คนของพรรคที่สอบผ่าน ต้องมานั่งคุยกัน ไม่ใช่ให้ใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจการเมืองมาทำตรงนี้

เมื่อถามว่า แนวทางการโหวตจะต้องออกมาเป็นมติพรรคใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นมติของส.ส.มากกว่า และต้องฟังพล.อ.ประวิตร เป็นหลัก เมื่อถามย้ำว่าเท่าที่พูดคุยกับพล.อ.ประวิตร ถึงการประเมินท่าทีรัฐบาลในอนาคต เป็นอย่างไรบ้าง ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า พล.อ.ประวิตร เป็นคนใจกว้าง เปิดรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ยืนยันว่าเปิดใจกว้างรับฟัง

เมื่อถามว่า สูตรการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลที่ไม่เอา 2 ลุง หากมีเงื่อนไขว่า พล.อ.ประวิตร ลาออก จะทำให้พรรคพปชร. มีโอกาสในการเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของสองสภา ไม่จำเป็นที่พล.อ.ประวิตร จะต้องลาออก เราเป็นนักการเมืองต้องยอมรับว่าความจริงของสังคมเป็นอย่างไร และเมื่อความเป็นจริงของสังคมสะท้อนอย่างไร ในสภาต้องมานั่งคุยกัน ต้องจบในสภา ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นปัญหาสังคม

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นรุ่นพี่ที่เป็นรัฐบาลมาก่อน จะฝากข้อคิดถึงพรรคก้าวไกล ในการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่กล้า เราต้องรู้ตัวว่าเราทำได้แค่นี้ ฟังเสียงส่วนใหญ่ว่าเป็นอย่างไรก่อน ทั้งนี้ ขอฝากว่าการเมืองท้องถิ่นเป็นรากเหง้าของการเมือง หลายคนที่สอบตกก็น่าจะรู้ตัวเองว่าพลาดเพราะอะไร

ส่วนเห็นด้วยหรือไม่ที่ส.ว.ระบุว่า การจะจัดตั้งรัฐบาลต้องรวมเสียงให้ได้ 376 เสียง โดยไม่ต้องพึ่งเสียง ส.ว.นั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นกลไกของสภา ต้องรวมเสียง ส.ส. ให้ได้เยอะที่สุดก่อน จะไปผลักดันให้เป็นภาระ ส.ว. ไม่ได้ เมื่อถามว่าพรรคพปชร. มีแผนสำรองไว้ในกรณีที่พรรคก้าวไกล ไม่สามารถรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มี มีอย่างเดียวคือทำหน้าที่ตัวเองให้ดีที่สุดก่อน ตนในฐานะ ส.ส.ของคนพะเยา ต้องทำในพรรคให้ดีขึ้นกว่านี้

เมื่อถามย้ำว่า หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้จริง มีโอกาสที่ขั้วเดิมจะตั้งรัฐบาล ทำงานร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องการเมืองจบไปแล้ว วาระของตนก็จบไปแล้ว สรุปว่าลืมหมดแล้ว ตอนนี้ไม่คิดเรื่องอื่น คิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศชาติดีขึ้น โดยเฉพาะความเดือดร้อนของประชาชน ตอนนี้เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า ภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ พี่น้องส่วนใหญ่ฐานรากเดือดร้อนอยู่จะทำอย่างไร เราอย่าเล่นการเมืองมากเกินไป

เมื่อถามว่า พอเห็นผลเลือกตั้ง ได้มีการหารือกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มีการหารืออะไรกับพรรคเพื่อไทย เพราะเพิ่งกลับมาจาก จ.พะเยา ไม่ได้คุยกับใคร