“ธรรมนัส” ไม่รู้เรื่อง “มงคลกิตติ์” ปูดข่าวนายกฯ เซ็นคำสั่งปลดจาก รมช.เกษตรฯ บอกยังไม่ได้คุยกับ “ประวิตร”
วันนี้ (2 ก.ย.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ระบุข้อความผ่านเฟซบุ๊กใจความว่า นายกรัฐมนตรีเซ็นคำสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส จากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว ว่า ตนไม่ทราบและยังไม่เห็นข่าว และไม่ได้คุยเรื่องนี้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ส่วนจะมีการดำเนินการกับคนที่ปล่อยข่าวเรื่องนี้หรือไม่หากไม่เป็นความจริง ตนมองว่านายมงคลกิตติ์ไม่ได้ประสงค์ร้ายกับตน ส่วนเรื่องนี้มีมูลหรือไม่ก็ต้องไปถามนายมงคลกิตติ์ เอาเอง
- ด่วน! เต้ มงคลกิตติ์ ปูดข่าวนายกฯ เซ็นคำสั่งปลด ธรรมนัส จากรัฐมนตรีช่วยเกษตรฯ
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส ยังยืนยันว่า ตนไม่ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีภายหลังจากการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ แต่ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร ส่วนปัญหารอยร้าวที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้ว ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีการแอบอ้างสถาบันฯ เรื่องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีนั้น ขอร้องว่าอย่าถามประเด็นนี้ ต้องแยกเรื่องการเมืองให้ชัดเจน อย่าดึงสถาบันฯ ลงมา
เมื่อถามว่าหากจะกลับไปเป็น ส.ส. อย่างเดียวจะยินดีหรือไม่ และหากเป็นเรื่องจริงคิดว่าเป็นธรรมหรือไม่ ผู้กองคนดังระบุว่า ตนมองว่าตนมาจากประชาชน เมื่อเข้าสู่เวทีการเมืองแล้วอย่าไปคิดมาก ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย เราคือตัวแทนของประชาชน เพราะฉะนั้นจะทำอะไรต้องคิดถึงประโยชน์ของชาติบ้านเมืองและประชาชนเป็นที่ตั้ง เสียงจากประชาชนคือเสียงสวรรค์ ตนคิดแค่นี้ไม่ได้คิดเรื่องอื่น แต่ในชีวิตก็ไม่เคยคิดเล่นการเมืองอยู่แล้ว ตนผ่านความเป็นความตายมามากพอแล้ว ไม่ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นหลุม เป็นบ่อ เป็นเหว ก็ต้องเตรียมพร้อม ส่วนเรื่องนี้จะส่งผลต่อการโหวตในวันที่ 4 กันยายนหรือไม่ตนไม่ทราบ เพราะเป็นสิทธิของ ส.ส. ไม่สามารถไปบังคับได้
ผู้สื่อข่าวถามต่อไปอีกว่า ถ้าหากกระแสข่าวนี้เป็นความจริง แสดงว่า ร.อ.ธรรมนัส กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขัดแย้งกันเป็นความจริงใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มีเพียงกระแสข่าว ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ แต่ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐตนพูดเสมอว่าทุกอย่างอยู่ที่หัวหน้าพรรคว่าจะให้นโยบายอย่างไร แต่ก็ขึ้นอยู่กับเอกสิทธิ์ ส.ส.แต่ละคนว่าจะตัดสินใจอย่างไร ไม่สามารถครอบงำได้ ตนเชื่อว่ากว่าแต่ละคนจะมาเป็น ส.ส. ต้องผ่านอะไรมาเยอะ เชื่อว่าวิถีชีวิตของการเป็นนักการเมือง ประชาชนจะเลือกหรือไม่ในสมัยหน้า ก็อยู่ที่พฤติกรรมของ ส.ส.คนนั้นว่าดูแลประชาชนหรือไม่
ส่วนปัญหาที่รุมเร้าในขณะนี้จะให้ทำให้ถอดใจลาออกจากตำแหน่งหรือไม่ ตนพูดเสมอว่าไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่งหน้าที่