ธนาธร ปลุกเลือกตั้ง 14 พฤษภา กาก้าวไกล ตั้งรัฐบาลใหม่ ฟื้นฟูประชาธิปไตย ขออย่าเพิ่งย้ายประเทศ ร่วมกันสร้างการเมืองให้ดีกว่านี้

วันที่ 26 เม.ย. 2566 ที่ป้ายรถเมล์ เซ็นทรัลลาดพร้าว กทม. พรรคก้าวไกล นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนให้ความสนใจ ร่วมฟังปราศรัยเป็นจำนวนมาก นายธนาธร ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ได้กำลังใจล้นหลามจากประชาชนในทุกภูมิภาค ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าคนไทยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน ไม่มีทุกท่านเรามาถึงที่นี่ไม่ได้ ตนอยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของวันที่ 14 พ.ค. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งรอบนี้นายธนาธร กล่าวต่อว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่พวกเราอยู่มาในรอบนี้ จุดกำเนิดคือการรัฐประหารปี 2549 หรือ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งยาวนานมาก โดยฝ่ายหนึ่งที่ต้องการพาประเทศไทยไปข้างหน้า ความเจริญ ความเป็นประชาธิปไตย กับอีกฝ่ายที่ไม่ต้องการเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า หมายถึงผลประโยชน์ทางอำนาจทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะต้องถูกแบ่งปันกับประชาชนมากขึ้น จึงมีประชาชนกลุ่มหนึ่งฉุดหลังประเทศไทยไม่ให้ไปข้างหน้า“เขาไม่เคยเกรงอกเกรงใจประชาชน 17 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีรัฐประหารถึง 2 ครั้ง มีการยุบพรรคการเมืองประชาธิปไตย 4 ครั้ง ไทยรักไทย พลังประชาชน ไทยรักษาชาติ และอนาคตใหม่ มีการประกาศแช่แข็งประเทศไทย 20 ปี มีการสลายการชุมนุมของประชาชน ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง จับคนเห็นต่างเข้าคุกเข้าตะราง ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ พวกเขาไม่เคยเกรงใจประชาชนเลย”นายธนาธร กล่าวถึงดราม่าแบบเรียนในรอบสัปดาห์นี้ว่า เป็นการสอนให้คนเชื่อ อย่าริอาจฝันถึงสิทธิเสรีภาพ เชื่อในบาปบุญคุณโทษ คิดว่าการเมืองไม่ดี เขาพยายามทำให้เชื่อแบบนั้น ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการพยายามพาประเทศไทยหลุดออกจากความขัดแย้ง ไม่ใช่ให้ปรองดองกัน เขาบอกพวกคุณอย่าเดินขบวน ให้ก้มหน้าก้มตายอมรับ นี่คือคำว่าปรองดองของเขา เก็บไว้ใต้พรม การเลือกตั้งรอบนี้เป็นการกากบาทเพื่อพาประเทศไปข้างหน้า“ไปหาทางออกกันในสภาผู้แทนราษฎร เอากองทัพอยู่ใต้พลเรือน สร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างสันติ โดยฉันทามติของประชาชน ซึ่งเป็นความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นภารกิจของรัฐบาลใหม่ ที่ต้องฟื้นฟูประชาธิปไตยกลับขึ้นมาแล้วใช้ฐานที่ตั้งของประชาชน คือระบบรัฐสภา ในการหาทางออกให้กับประเทศไทย คนมองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่พรรคการเมืองพยายามเสนอทางออกให้กับประเทศไทย” นายธนาธร กล่าวต่อว่า มีรัฐมนตรีตั้งหลายคน ไม่ต้องทำทีละเรื่อง ทำชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อแม่พี่น้องให้ดีขึ้น พร้อมกับโจทย์ที่ยากๆ รวมถึงการเป็นประชาธิปไตย สามารถทำพร้อมกันได้ไม่ต้องเลือกทำ

“ฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่ไม่ค่อยเห็นหัวประชาธิปไตย เขาไม่เคยเห็นหัวประชาชน คำถามคือ 17 ปีที่ผ่านมา นี่เป็นช่วงเวลาที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมอ่อนแอมากที่สุด ไม่ทำวันนี้จะทำวันไหน บัตรเลือกตั้งจะเป็นตัวตัดสินว่าคนไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน”

นายธนาธร กล่าวอีกว่า บัตรจะเลือกคนคือความเป็นจริง คืออำนาจต่อรองในการทำเรื่องยากๆ ต้องมีก้าวไกลเข้าไปให้มีอำนาจให้มากที่สุดให้ได้ เพื่อให้เขาเข้าไปยกมือให้กฎหมายที่ยากๆ ผลักดันวาระที่ยากๆ ผ่าน

“พรรคก้าวไกลคือคำถาม ตะโกนดังๆว่า เอาไหมก้าวหน้า อย่าเพิ่งเชื่อว่าประเทศไทยมาได้เท่านี้ อย่าเพิ่งย้ายประเทศ มาร่วมกันสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้” นายธนาธรกล่าว