ธนาคาร 8 แห่ง เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยการเงิน เหยื่อมิจฉาชีพ ปชช.ประสบภัย โทร24ชม.

Home » ธนาคาร 8 แห่ง เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยการเงิน เหยื่อมิจฉาชีพ ปชช.ประสบภัย โทร24ชม.


ธนาคาร 8 แห่ง เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยการเงิน เหยื่อมิจฉาชีพ ปชช.ประสบภัย โทร24ชม.

ธนาคาร 8 แห่ง เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุ ภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพ ประชาชนผู้ประสบภัย โทรได้ 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นความเสียหายให้เร็วที่สุด

3 มี.ค. 66 – น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประสานความร่วมมือ เพื่อแก้ไขปัญหามิจฉาชีพหลอกหลวงประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ มีการโอนเงินออกจากบัญชีผ่านแอปพลิเคชันของธนาคาร จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง

กระทรวงการคลัง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ทำงานร่วมกับสมาคมธนาคารไทย และธนาคารของรัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันปัญหา และบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดแก่ประชาชน

ล่าสุด ธนาคารพาณิชย์ และธนาคารเฉพาะกิจรวม 8 แห่ง ได้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของธนาคาร เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพโทรแจ้งเหตุ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นความเสียหายให้เร็วที่สุด

ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย 0-2888-8888 กด 001, ธนาคารกรุงไทย 0-2111-1111 กด 108, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 1572 กด 5, ธนาคารกรุงเทพ 1333 หรือ 0-2645-5555 กด *3, ธนาคารไทยพาณิชย์ 0-2777-7575, ธนาคารทหารไทยธนชาต 1428 กด 03, ธนาคารออมสิน 1115 กด 6 และ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย 0-2626-7777 กด 00

“หากประชาชนท่านใดเห็นว่า ตนเองมีความเสี่ยงที่อาจประสบภัยจากมิจฉาชีพทางออนไลน์เนื่องจากมีการติดตั้งแอปพลิเคชันธนาคารทางมือถือ มีการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านมือถืออยู่บ่อยๆ ขอให้บันทึกเบอร์ติดต่อศูนย์แจ้งเหตุฯ ของธนาคารที่ตนเองเป็นลูกค้า เพื่อว่าเมื่อเกิดเหตุจะได้โทรประสานเพื่อระงับธุรกรรมได้ทันที” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า การเปิดศูนย์แจ้งเหตุภัยทางการเงินจากมิจฉาชีพของสถาบันการเงินต่างๆ เป็นมาตรการควบคู่กับที่ขณะนี้ รัฐบาลได้ผลักดัน พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. …. เพื่อให้เป็นกฎหมายที่เข้ามาช่วยจัดการปัญหาได้อย่างเด็ดขาด

ซึ่ง พ.ร.ก.ฯ มีสาระสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการปราบปรามการกระทำผิด ด้วยมาตรการต่างๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนข้อมูลของสถาบันการเงินหรือผู้ประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องผ่านระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่หน่วยงานที่มีอำนาจให้การอนุญาต เพื่อประสิทธิภาพการตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ สถาบันการเงินสามารถระงับธุรกรรมได้เมื่อพบเหตุอันต้องสงสัยหรือได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าของบัญชี ตลอดจนการกวาดล้างบัญชีม้า เป็นต้น

โดยขณะนี้ ดีอีเอส ธปท. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสมาคมธนาคารไทย อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบกลางที่เรียกว่า ศูนย์ตรวจเช็กธุรกรรมที่มีความเสี่ยงทุจริต (Central Fraud Registry) เพื่อเป็นกลไกด้านข้อมูลที่จะช่วยในการยับยั้งความเสียหายที่อาจเกิดกับประชาชนเจ้าของบัญชีที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ