ธนกร โว รทสช. พร้อมทุกด้าน มั่นใจ บิ๊กตู่ เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลอีกครั้ง ผลงานเป็นที่ประจักษ์ มอง ดีล “อนุทิน-บิ๊กป้อม” ไม่เป็นปัญหา เหตุ บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม มีความสัมพันธ์ยาวนาน ไม่น่าเลือกอีกฝั่ง
21 มี.ค. 66 – ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่กกต.ออกประกาศว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่งผู้สมัคร 75 จังหวัด เว้นไว้ 2 จังหวัดที่ไม่ส่ง ว่า
ตนขอไปตรวจสอบอีกที แต่จริงๆ แล้ว รทสช. มีความพร้อมทุกจังหวัด ซึ่งผู้สมัครแสดงเจตจำนงมาทุกจังหวัด และพรรคเองก็มีความพร้อม ซึ่งวันนี้พรรคจะมีการประชุมคณะกรรมการบริหาร คงจะมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของผู้สมัคร และการปราศรัยหลังจากที่มีการยุบสภาแล้ว เพราะตอนนี้พรรคก็มีความพร้อมในทุกด้าน และวันนี้ผู้สมัครทุกจังหวัดน่าจะมีการขึ้นป้าย รูปคู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ในทุกพื้นที่
เมื่อถามว่า หลังจากยุบสภา นายกรัฐมนตรี ได้มีการพูดคุยอะไรหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ มีความมั่นใจว่า ด้วยผลงานที่ทำมา 7-8 ปี แม้ว่าฝ่ายค้านจะพยายามใช้วาทกรรมในการดิสเครดิตต่างๆ ว่า ไม่มีผลงาน ล้มเหลวด้ายต่างๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ประชาชนเห็นสิ่งที่นายกฯ ทำมา 7-8 ปีแล้ว ดังนั้นจึงเชื่อว่า ยิ่งฝ่ายค้านโจมตีปราศรัยแบบนี้ จะยิ่งเพิ่มคะแนนให้กับนายกฯ และรทสช.
“สุดท้ายแล้วการเลือกตั้ง ผมเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะมี 2 ฝั่ง เชื่อว่าฝั่งของเพื่อไทย และฝั่งของพล.อ.ประยุทธ์ สุดท้ายแล้ว ฝั่งสถานการณ์จะทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกระหว่างฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ และ ฝั่งเพื่อไทย เพราะประชาชนไม่อยากเห็นความขัดแย้ง ความวุ่นวายในประเทศอีกแล้ว
พล.อ.ประยุทธ์ สามารถแก้ปัญหาที่ผ่านมาได้ดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความขัดแย้ง หรือปัญหาโควิด ถือเป็นผลงานที่ชัดเจน ผมจึงคิดว่าประชาชนจะเลือกความสุขในแบบที่เป็นอย่างนี้อยู่ ใครจะว่าไม่ดีอย่างไรก็ตาม แต่ผมคิดว่า ประชาชนตอนนี้มีความสุขในสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำ”
เมื่อถามว่า ผลโพลที่ออกมา พล.อ.ประยุทธ์ ยังตามพรรคเพื่อไทย (พท.) อยู่ นายธนกร กล่าวว่า ไม่เป็นไร ผลโพลเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องนำมาปรับปรุง แต่ผลโพลไม่ใช่ผลการเลือกตั้ง ตนมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล และขั้วของพรรคร่วมรัฐบาล เราก็ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกันอยู่ และ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง จึงเชื่อว่า หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ก็ยังให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์อยู่
เมื่อถามว่า ไม่คิดว่า จะมีขั้วการเมืองใหม่ ที่ไม่มี รทสช. อยู่ร่วมหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ตนไม่คิดอย่างนั้น
“ผมกับนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้นั่งวิเคราะห์การเมืองกับนายกฯ มาตลอด และพยายามวิเคราะห์ในพื้นที่ต่างๆ เรามั่นใจว่าเราจะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลได้”
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีคนปรามาสว่า พรรค รทสช. จะได้ถึง 25 เสียงหรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เรื่อง 25 เสียงนั้นเลิกพูดได้แล้ว เพราะตอนนี้ส.ส.เก่าที่ย้ายมา 40 กว่าคนแล้ว และบัญชีรายชื่อจะถึง 25 คนด้วยซ้ำไป ตนจึงบอกว่า การเมืองจะมีแค่พรรคเพื่อไทย กับ พล.อ.ประยุทธ์เท่านั้น ในเรื่องกระแสความนิยมในตัวบุคคล เพราะฉะนั้น คะแนนปาร์ตี้ลิสต์ พรรค รทสช. ได้คะแนนสูงอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล มีการปิดดีลกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณแล้ว คิดว่า จะมีพล.อ.ประยุทธ์ อยู่ในสมการนี้หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เราอยู่ในโลกของความเป็นจริง วันนี้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ทำงานร่วมกับนายกฯ มา 4 ปี มีความรักความผูกพัน และด้วยบุคลิกส่วนตัวของนายกฯ อยู่ตรงไหนใครๆ ก็รัก
เพราะฉะนั้นตนเชื่อว่า ตลอดระยะเวลาการร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมีความรัก ความกลมเกลียวกันอยู่ และเชื่อมั่นว่า ด้วยตัวตนของนายกฯ เป็นที่รักของทุกพรรค เพราะนายกฯ ให้เกียรติทุกคน จึงเชื่อว่าความผูกพันตรงนี้ มีความยั่งยืน ดังนั้น การจับขั้วรัฐบาลเป็นเรื่องง่ายสำหรับรทสช. ในการที่จะประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลเก่า
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่ามั่นใจว่า พล.อ.ประวิตร และนายอนุทิน จะนำพล.อ.ประยุทธ์ไปรวมด้วยใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า เชื่อว่าความรักความผูกพันของทุกคน โดยเฉพาะพล.อ.ประวิตร มีความผูกพันกับพล.อ.ประยุทธ์มาถึง 40-50 ปี ความผูกพันยั่งยืนอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การที่พล.อ.ประวิตรจะไปเลือกอีกฝั่ง ตนคิดว่า เป็นสมการที่ไม่น่าเป็นไปได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่า รทสช. ต้องเป็นรัฐบาลเท่านั้นใช่หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า ก็ต้องเป็นรัฐบาลเพื่อทำงานต่อ ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ เพราะมีบางอย่างที่รัฐบาลต้องทำต่อ เพราะต้องให้โอกาสนายกฯ ในการทำต่อ และตนคิดว่าประชาชนเข้าใจและเห็นใจสิ่งที่นายกฯ ทำ ทุกพื้นที่ที่นายกฯ ลง จะเห็นว่าประชาชนรักนายกฯ ด้วยความจริงใจ ต่อให้ฝ่ายค้านพูดเท่าไหร่ แต่สวนทางกับสิ่งที่เป็นจริง
นายธนกร กล่าวถึงผู้สมัครของจังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า ผลโพลที่ออกมาได้ถึง 7 เขต จากที่มีอยู่ 10 เขต ตนไม่ได้เชื่อผลโพล แต่เชื่อผลการเลือกตั้ง และตนมั่นใจว่าที่นครศรีธรรมราช เราได้ตัวผู้สมัครที่ดีมาก บวกกับกระแสความนิยมของนายกฯ ผมคิดว่าที่นครศรีธรรมราชจะแลนด์สไลด์แน่นอน