“ธนกร” เผย รวมไทยสร้างชาติรอคุยโหวตนายกฯ สัปดาห์หน้า ไม่ชัดเสนอชื่อแข่ง รับต้องให้เกียรติพรรคอันดับ 1-2 ก่อน ย้ำชัดไม่เอาคนแก้ ม.112 เชื่อ สว.มีวิจารญาณ ไม่จำเป็นต้องนัดคุย
นายธนกร วังบุญคงชนะ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงทิศทางการเมืองของพรรค ได้ออกแบบไว้ทันสมัย หลังเลือกตั้ง ได้ ส.ส.มา 36 คนนำมาปรับจุดอ่อน-จุดแข็ง โดยนำคนรุ่นใหม่-รุ่นเก่า ผสมผสานทำงานร่วมกัน และคิดว่าการทำงานการเมืองหลังจากนี้จะเข้มข้นมากขึ้น โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ขอวพรรคฯ ได้ให้คำแนะนำที่ดี เชื่อว่า บุคลากรของพรรคมีสิ่งที่ลงตัวในอนาคต
ส่วนท่าทีกับพรรคร่วมเดิมในการโหวตนายกรัฐมนตรี นายธนกร ระบุ เรื่องนี้ต้องคุยกันภายในพรรคก่อน โดยในสัปดาห์หน้าจะหารือทิศทางโหวต และอาจหารือกับพรรคร่วมเดิมนอกรอบ ไม่จำเป็นต้องนัดคุยส่วนตัว อาจคุยทางไลน์ได้
ขณะการเสนอชื่อชิงนายกรัฐมนตรี นายธรกร มองว่า การเมืองวันนี้ต้องให้เกียรติพรรคอันดับ 1 อันดับ 2 หากตั้งไม่ได้ ต้องกลับมาหารือกัน ว่าจะเป็นอันดับ 3 หรือไม่ แต่ต้องยึดมารยาททางการเมืองก่อนพร้อมชี้แจงกรณีพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อ นายวิทยา แก้วภารดัย แข่งตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1
เพราะย้ำจุดยืนไม่สนับสนุนการแก้ไขหรือยกเลิก ม.112 และนายวิทยา ก็ได้มา 105 เสียง จึงขอขอบขอบคุณพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ที่ลงคะแนนให้ ส่วนพรรคภูมิใจไทยไม่ลงคะแนนให้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร อาจจะไม่ได้ประสานหน้างาน ยืนยัน พรรคร่วมเดิมยังเหนียวแน่น รักใคร่กันดี ทั้งกับตนและพลเอกประยุทธ์ ทั้งนี้ จุดยืนของพรรคภูมิใจไทย ตนไม่ขอก้าวล่วง และภูมิใจไทย ก็ชัดเจนเรื่อง ม.112 ซึ่งเป็นจุดยืนเดียวกับรวมไทยสร้างชาติ
ขณะเดียวกัน จะไปหารือกับฝั่ง สว. หรือไม่ คงไม่ไปก้าวล่วงเช่นกัน เชื่อว่า สว.มีวุฒิถาวะ คิดเองได้ และมองว่าการโหวตนายกฯ ไม่ง่าย ดูลมฟ้าอากาศ แล้ว ก็ขอให้กำลังใจก้าวไกลและเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล ตามกลไกรัฐธรรมนูญ อีกทั้งเรื่องคดีเยอะ ก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ แต่วิเคราะห์ได้ว่า ไม่ง่ายนัก ซึ่งในสัปดาห์หน้าโหวตเลือกนายกฯ
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ติดตาม สว. หากไม่มีเรื่อง ม.112 ก็จะโหวตให้ และประเด็นพรรคก้าวไกล ไม่ได้เป็นรัฐบาล จะมีการชุมนุมลงถนนนั้นส่วนตัว ไม่อยากให้การเมืองขัดแย้งอีก พร้อมมองว่า รัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปได้ยาก แม้ตั้งได้แต่บริหารประเทศไม่ได้ และตนเองก็ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเสียงข้างน้อย โดยเสียง ส.ส.ต้องเกิน 250 เพราะต้องใช้เสียงข้างมากในการพิจารณางบประมาณการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ดังนั้น จึงอยากให้ก้าวไดล และเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้ พร้อมย้ำตนแค่ไม่เห็นด้วยเรื่อง ม.112 เท่านั้นยืนยันในฐานะนักการเมือง ไม่ได้มีปัญหาทางการเมือง อีกทั้งนายกรัฐมนตรีปัจจุบันเองก็ไม่ได้กังวลอะไร แค่เป็นห่วงอยากให้มีรัฐบาลโดยเร็ว ไม่อยากให้ประเทศขัดแย้ง หรือมีการชุมนุม เพราะทำบ้านเมืองมาถึงขนาดนี้ และเชื่อว่าคนไทยทุกคนรักประเทศ แต่เรื่องความมั่นคงทั้งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถือเป็นสถาบันหลักที่ต้องมั่นคง