ปลัดอำเภอพร้อมคณะตรวจสอบ อาจารย์หน่อย ใช้น้ำมนต์รักษาทุกโรค แต่ได้แค่เตือนเรื่องโควิด-อย่าทำผิดกฎหมาย เจ้าตัวยืนยันจะรักษาต่อ ยินดีให้หมอปลาพิสูจน์
เมื่อวันที่ 27 เม.ย.65 กรณีนายประดิษฐ์ หรือชาวบ้านเรียกว่า “อาจารย์หน่อย” แสนประเสริฐ อายุ 41 ปี ชาวบ้าน บ้านหนองตาเก็ม ต.เมืองยาง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ประกาศตัวเป็นหมอรักษาผู้ป่วยโดนใส่ของ ป่วยจิตเวช ผีปอบสิง รวมถึงสามีโดนใส่ของแล้วไปอยู่กับเมียน้อย ซึ่งมีผู้รักษาหายแล้วเป็นจำนวนมาก และกลายเป็นกระแสหลังเป็นข่าวออกไป

อาจารย์หน่อย
ความคืบหน้าล่าสุด นายจตุรงค์ วิชัยดิษฐ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ พร้อมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหลายฝ่าย เดินทางเข้าไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น ที่บ้านของอาจารย์หน่อย
นายประดิษฐ์ ยอมรับกับปลัดอำเภอว่า รับรักษาผู้ป่วยจริงทำมานานแล้วประมาณ 7 ปี รักษาคนป่วยจิตเวชหายและอีกหลายโรค ด้วยวิธีเสกน้ำมนต์หรือใช้สมุนไพร ให้ดื่ม ให้ทา และให้อาบ รวมถึงปัญหาการแตกแยกของครอบครัวที่โดนใส่ของ ตนสามารถรักษาแก้ไขให้ได้ ผู้ที่มารักษาจะต้องจ่ายค่าครู 99 บาท และหากรักษาหายจะมาปลงครู จะต้องจ่าย 105 บาท
หากผู้ที่รักษาหายแล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางมาปลงครูได้ ตนก็จะเดินทางไปหา มีหลายจังหวัดที่ไปปลงครูมาแล้ว เช่น จ.กำแพงเพชร และจังหวัดเชียงราย ทั้งหมดคิดค่าขึ้นครู 99 บาท และปลงครูอีก 105 บาท ส่วนผู้ที่ให้การรักษาจะให้ค่าตอบแทนเป็นค่าเดินทางเท่าไหร่ ตนไม่เคยเรียก
“ยืนยันว่าจะรักษาผู้ป่วยต่อไป เพราะมั่นใจไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เป็นความเชื่อตามประเพณีของไทย ใครมีความรู้ด้านไหนก็รักษากันไปเหมือนในอดีต ที่ไม่มีหมอเหมือนปัจจุบัน ถือเป็นทางเลือกในการรักษาอีกทางหนึ่ง ส่วนหมอปลาหรือหมอท่านไหนจะเดินทางมาหาเพื่อพิสูจน์ ผมก็ยินดี เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด” นายประดิษฐ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปลัดฝ่ายความมั่นคง อำเภอชำนิ ได้แค่รับฟังและเตือนไม่ให้กระทำผิดกฎหมาย หรือเรียกรับผลประโยชน์ จนทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน รวมถึงการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนจะเดินทางกลับ
ด้าน น.ส.สุจิตรา กมลกิจ อายุ 22 ปี ชาวบ้านในหมู่บ้าน หนึ่งในผู้ที่เข้าไปรักษากับอาจารย์หน่อย บอกว่า ลูกชายวัย 2 เดือน มีอาการไม่ปกติ ชอบร้องไห้ในเวลากลางคืนเป็นประจำ ไปหาหมอก็ไม่หาย จึงตัดสินใจอุ้มลูกไปให้อาจารย์หน่อยดู
จากนั้นอาจารย์หน่อยเสกน้ำมนต์เป่าให้ลูกชาย หลังจากนั้นลูกไม่ร้องไห้อีกเลย มาจนถึงทุกวันนี้ ทั้งนี้ตนไม่ได้เชื่อแบบงมงาย แต่ไม่มีทางเลือกต้องทดลอง เพราะไม่ได้เสียหาย ไม่ได้ใช้เงินทองเดินทางไปไกล ส่วนลูกชายที่หยุดงอแง ตนไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร รู้เพียงว่าไปหาอาจารย์หน่อยแล้วลูกหาย ตนก็พอใจ