เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม 2564 พ.ต.ท.ศรัณยพงศ์ อังคะนาวิน สารวัตร(สอบสวน) สภ.บ้านบึง เดินทางไปที่ บ้านในตำบลหนองอิรุณ อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งหน่วยกู้ภัยศีลธรรมสมาคมบ้านบึงว่ามีผู้เสียชีวิต ไม่ทราบสาเหตุ    

เมื่อมาถึงพบหน้าบ้านเปิดเป็นร้านปะยางรถยนต์ ส่วนร่างผู้เสียชีวิต คือ นางหนูใหญ่ ฟักสนิท อายุ 61 ปี อยู่ภายในห้องครัวหลังบ้าน เสียชีวิตในสภาพนั่งกับพื้น ขาทั้งสองข้างขนาบกับเตาถ่านที่มอดดับแล้ว โดยที่หน้าฟุบกับหม้อใส่น้ำต้มสมุนไพรสวนครัว หน้าอกติดอยู่กับเตาถ่าน กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างนอนลงกับพื้น พบมีรอยไหม้ที่ผิวหนังบริเวณเหนืออก หัวไหล่ทั้งสองข้าง ผิวหนังใบหน้ามีรอยพุพอง ตัวเริ่มแข็ง

จากการสอบถามนายบุญเยือน ฟักสนิท อายุ 57 ปี สามีผู้ตายเล่าว่า เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น.ผู้ตายได้นำเอาเตาถ่านจุดไฟต้มสมุนไพรแล้วนำเอาผ้าห่มมาคลุมทับเหมือนอบสมุนไพร ตนเองเห็นจึงบอกว่า ทำไมนั่งแบบนี้ ให้อากาศถ่ายเทบ้าง แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ เพราะรู้ว่าผู้ตายมีความอดทนสูง คงอยากจะตั้งใจอบสมุนไพรจริงจัง จากนั้นก็เดินออกไปทำธุระข้างนอก จนกระทั่งกลับมา ลูกสะใภ้ได้บอกว่าให้ไปเรียกแม่หน่อย    

ลูกสะใภ้เรียกแล้วแต่ผู้ตายไม่คุยด้วย ตนเองก็เข้าไปดูและพยายามเรียก แต่ก็เงียบจึงมานั่งกิน และหลังกินเสร็จ จึงเข้าไปดูอีก พอเปิดผ้าห่มออกถึงกับตกใจ พบภรรยาเสียชีวิตหน้าทิ่มอยู่ในหม้อต้มสมุนไพร จึงรีบแจ้งขอความช่วยเหลือ ซึ่งผู้ตายเพิ่งจะเคยต้มสมุนไพรอบตัวเป็นครั้งแรก ไม่คิดว่าจะเป็นความคิดรู้เท่าไม่ถึงการณ์

จึงฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนทั่วๆไป สำหรับตนเองกับผู้ตายทำงานปะยาง ผู้ตายร่างกายแข็งแรงมากช่วยงานได้เหมือนผู้ชาย เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนเองถูกรางวัลที่ 4 จำนวน 2 ใบ ได้เงินมากำลังจะเอาเงินเข้าบัญชีให้ผู้ตาย แต่ไม่ทันที่จะได้เข้าบัญชี ก็ต้องนำเอาเงินที่ได้มา จัดการเรื่องงานศพให้ภรรยาตนเอง