ความเคลื่อนไหวการแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมหญิง รายการ “2023 บิลลี จีน คิง คัพ บาย เกนบริดจ์” หรือชื่อย่อ “บีเจเค คัพ” โซนเอเชีย/โอเชียเนีย กลุ่ม 1 ที่กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 11-15 เม.ย.2566 ล่าสุด มีการประชุมผู้จัดการทีมและกัปตันทีมจากทุกชาติที่เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อประกบคู่และวางโปรแกรมการแข่งขัน

“โค้ชเอ็กซ์” นายพชรพล คำสมาน กัปตันทีมไทย กล่าวว่า ในการประชุมได้มีการแจ้งว่าจะไม่มีการประกบคู่และวางโปรแกรมการแข่งขันทั้ง 5 แมตช์ แต่จะแจ้งว่า จะต้องเจอกับทีมใดในวันรุ่งขึ้น หลังจบการแข่งขันของแต่ละวันแล้ว ถือเป็นการเปลี่ยนกฎที่ทำให้ลุ้นสนุกมากขึ้น เพราะแต่ละทีมจะวางแผนครอบคลุม 5 วันไม่ได้ว่าจะจัดใครลงสนามก่อนหลัง

สำหรับแมตช์แรกของไทย จะประเดิมพบกับ อินเดีย ซึ่งเป็นทีมวางอันดับ 3 ของรายการ ถือว่าหนักพอสมควร เพราะมีมือ 1 ที่เล่นดี และทั้ง 5 คน มีความใกล้เคียงกัน ส่วนไทยจะต้องวางแผนกันอีกครั้ง ทุกคนมีความพร้อม อยากเริ่มต้นด้วยการเก็บชัยชนะก่อน เพื่อขวัญกำลังใจที่ดี และจะได้เล่นด้วยความมั่นใจในแมตช์ต่อ ๆ ไป

ดร.ทวีศักดิ์ ศิลกุล ผู้จัดการทีมไทย กล่าวว่า เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการแจ้งโปรแกรมแข่งขัน ทำให้ต้องส่งมือดีลงสนามเป็นหลักไปก่อน เพราะวางแผนล่วงหน้าทั้ง 5 วันไม่ได้ ทำให้ต้องเน้นเก็บแต้มในแต่ละวันให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะมือเดี่ยว ต้องให้ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช มือ 1 ของไทย และ “ลักส์” ลักษิกา คำขำ มือ 2 ลงเก็บแต้มเป็นหลัก ส่วนน้อง ๆ “ไหม” มนัญชญา สว่างแก้ว, “แน็ต” พัณณิน โควาพิทักษ์เทศ และ “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ จะได้โอกาสแน่นอน ถ้าผลที่ออกมาเหมาะสมกับไทย
“ถ้ามือเดี่ยวชนะได้ทั้ง 2 มือแล้ว ก็อาจจะส่งมือรองไปเล่นเดี่ยว เพื่อถนอมร่างกาย เพียงธาร และ ลักษิกา เอาไว้ในแมตช์ถัดไป โดยสามารถเปลี่ยนชื่อการแข่งขันประเภทคู่ได้ก่อนลงสนาม 15 นาที”

ในส่วนการแข่งขันนั้น จะเริ่มคู่แรกด้วยเดี่ยวมือ 2 ต่อด้วยเดี่ยวมือ 1 และปิดท้ายด้วยประเภทคู่ ต้องแข่งขันทุกคู่ ถึงแม้จะชนะเดี่ยว 2-0 คู่ไปแล้ว เนื่องจากมีผลต่อการจัดอันดับในตารางคะแนน สำหรับโปรแกรมแมตช์แรกของทั้ง 6 ทีม ทีมไทย จะพบ อินเดีย, จีน พบ อุซเบกิสถาน และ เกาหลีใต้ พบ ญี่ปุ่น

สำหรับสถิติการเจอกันของทีมนักหวดสาวไทย กับ อินเดีย ในรายการนี้ เคยเจอกันมา 9 ครั้ง ไทยชนะ 6 ครั้ง แพ้ 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดเจอกันในกลุ่ม 1 ของโซนเอเชีย/โอเชียเนีย เมื่อปี 2019 ครั้งนั้นไทยแพ้ 1-2 คู่

ทั้งนี้ จากอันดับโลก 6 ทีม ทีมไทย อยู่ที่อันดับ 47 ของโลก เป็นทีมวาง 6 ของรายการ ด้านทีมวาง 1 ได้แก่ ญี่ปุ่น (อันดับ 19 ของโลก) ทีมวาง 2 จีน (อันดับ 21 ของโลก) ทีมวาง 3 อินเดีย (อินเดีย 27 ของโลก) ทีมวาง 4 เกาหลีใต้ (อันดับ 32 ของโลก) และทีมวาง 5 อุซเบกิสถาน (อันดับ 39 ของโลก)