ทิดเพิ่งสึก หวนกลับไปเสพยา จนเงินเก็บจากบวชพระหมด หน้ามืด เห็นป้าวัย 66 ใส่ทอง ลงไปล็อกคอ กระชากหนี โดนจับได้ขอโทษ อ้างไม่ได้ตั้งใจทำร้าย
นนทบุรี : เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 14 มี.ค.66 พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ วิจิตรจริยา ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สว.สส.พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนได้ร่วมกันจับกุมตัว นายณัฐพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท 1 เส้น เงินสด 1.3 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์อีก 1 เส้น พร้อมชุดเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่วันก่อเหตุ 1 ชุด รถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี่ สีดำแดง ทะเบียน สงจ 60 กรุงเทพมหานคร 1 คัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ หน้าตลาดสามแยกเอื้ออาทรท่าอิฐ ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี
พ.ต.อ.ธนะเมศฐ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค.66 เวลาประมาณ 19.40 น. น.ส.พุธ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.สหรัตน์ เสือแก้ว รอง สว.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ว่า ขณะกำลังจะเดินเข้า ซอยนนทบุรี 24/3 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตลาดจิตเทวัญ เพื่อกลับบ้านพักในซอยดังกล่าว ถูกคนร้ายเป็นชาย 1 คน เดินตามเข้าประกบที่ด้านหลัง ก่อนใช้แขนล็อกคอแล้วผลักจนล้มลงกับพื้นพร้อมกับใช้มือกดคอตนไว้ จากนั้นคนร้ายกระชากสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท 1 เส้น และสร้อยข้อมือ น้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น แล้ววิ่งหลบหนีไปทางปากซอยจากนั้นคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
ต่อมาภายหลังรับแจ้งเหตุจากผู้เสียหายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ จนพบเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ก่อนสืบทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายณัฐพงศ์ จึงนำกำลังไปตามจับกุมตัวได้ที่หน้าตลาดสามแยกเอื้ออาทรท่าอิฐ พร้อมนำผู้ต้องหาไปตรวจค้นห้องนอนที่บ้านพัก พบของกลางซุกซ่อนอยู่กระเป๋าสะพาย จึงตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
สอบสวนนายณัฐพงศ์ ให้การรับสารภาพ ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง ทั้งนี้เนื่องจากหลังจากตนเพิ่งสึกพระออกมาได้ไม่ถึงปี ได้หวนกลับไปเสพยาบ้าอีกครั้งจนทำให้เงินที่เก็บสะสมไว้ตอนเป็นพระหมดลง ประกอบกับในวันที่ก่อเหตุนั้นตนเหลือเงินติดตัวเพียง 100 บาท จึงตระเวนขับขี่รถ จยย.เรื่อยมาจนมาพบผู้เสียหายใส่ทองรูปพรรณเดินอยู่ จึงตัดสินใจจอดรถ จยย. แล้วเดินตามหลังไป จนสอบโอกาสจึงลงมือกระชากสร้อยคอและข้อมือของผู้เสียหายแล้วหลบหนีไป
จากนั้นตนนำสร้อยข้อมือทองคำน้ำหนัก 2 บาท ของผู้เสียหายไปขายที่ร้านทองใกล้บ้านได้เงินมาจำนวน 54,460 บาท เนื่องจากน้ำหนักสร้อยขาดหายไปบางส่วน จึงซื้อสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 50 สตางค์ 1 เส้นมาใส่แทน ส่วนเงินที่เหลือก็นำไปใช้หนี้เพื่อนที่ยืมมา และซื้อยาบ้ามาเสพ เล่นพนันออนไลน์ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาจับกุมตัว
ในเวลาต่อมา น.ส.พุธ ผู้เสียหาย ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินที่ถูกผู้ต้องหาชิงทรัพย์ไป ซึ่งนายณัฐพงศ์ ผู้ต้องหาสำนึกผิดได้ยกมือไหว้ขอโทษน.ส.พุธ ที่มาก่อเหตุลงไปเพียงเพื่อต้องการทรัพย์สินแต่ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายร่างกาย
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบประวัติของนายณัฐพงศ์ จึงพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง และคดีลักทรัพย์อีก 1 ครั้ง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนี นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
