“เลือกแล็ปท็อปก็เหมือนเลือกผู้ช่วยส่วนตัว” คงไม่ใช่คำกล่าวเกินจริง ในเมื่อโลกธุรกิจ ไอเดียที่ดีต้องถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ดียิ่งกว่า สอดรับกับการทำงานที่หลากหลาย การสร้างสรรค์ผลงานที่ดีเยี่ยม เพื่อความสำเร็จในโลกธุรกิจ ดังนั้น Business Laptop ที่มาพร้อมประสิทธิภาพทรงพลัง ฟังก์ชั่นการทำงานที่เหนือกว่า มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน พกพาสะดวก ก็เปรียบเสมือนเลขาที่เก่งรอบด้าน ช่วยแบ่งเบาภาระงานและช่วยซัพพอร์ตให้การทำธุรกิจลื่นไหล
หากคุณกำลังมองหา “ผู้ช่วย” เครื่องใหม่ เราอยากให้คุณพิจารณา MSI Summit E13 Flip Evo แล็ปท็อปสำหรับนักธุรกิจและงานระดับองค์กร เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพในการใช้งานอันยอดเยี่ยม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้านธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น
ทรงพลังด้วย Tiger Lake รุ่นล่าสุด และ Intel Iris Xe Graphics การ์ดจอออนชิปที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ในเมื่อ MSI ปล่อยซีรีส์ Summit เพื่อตอบโจทย์ความคาดหวังสูงสุดของกลุ่มผู้ใช้งานด้านธุรกิจและระดับองค์กร สิ่งแรกที่ต้องพิจารณาคือ ความแรงของระบบประมวลผล โดย MSI Summit E13 Flip EVO ได้สุดยอดหน่วยประมวลผลแห่งยุคอย่าง Intel® Core ™ i5 และ i7 เจเนอเรชั่นที่ 11 สถาปัตยกรรม Tiger Lake เทคโนโลยีสุดล้ำ SuperFin พร้อม AI ในตัว ช่วยประมวลผลการทำงานบางโปรแกรม ให้ความแรงที่ทรงพลังเทียบเท่า Core i Gen 10H ที่เป็น รหัส H ที่มีความหมายว่าเป็นตัวที่เน้นเรื่องประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเอง
ความเจ๋งยังอยู่ที่กราฟิกออนชิปอย่าง Intel® Iris® Xe Graphics ซึ่งจัดว่าเป็นการ์ดจอออนชิปสำหรับแสดงผลในตัวหน่วยประมวลผลที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา อัปเกรดความแรงขึ้นถึง 10% รองรับการทำงานกับหน้าจอความละเอียดสูงอย่าง 4K / 8K ได้แบบไม่มีปัญหา ส่วนแรมมีให้เลือกระหว่าง 16GB กับ 32GB และ SSD 512GB กับ 1TB เลือกใส่ได้สูงสุด 2TB จึงเสริมประสิทธิภาพการทำงานขั้นสุด สามารถขับเคลื่อนระบบปฏิบัติการ Windows 10 Home ได้อย่างลื่นไหล พร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายที่ดีที่สุดอย่างพอร์ต Thunderbolt ™ 4 และ Intel Wi-Fi 6E AX210(2*2)+BT5.2 ส่งพลังความเร็วแรงแม้อยู่ท่ามกลางการเชื่อมต่อมากมาย พร้อมความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่สูงสุดถึงระดับ 40 Gbps และยังรองรับ PCIe Gen4 ที่ให้ประสิทธิภาพในการอ่านเขียนข้อมูลสูงกว่าเดิมหลายเท่าตัว
แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือมาตรฐาน Intel® Evo™ ซึ่งเป็นโลโก้สำหรับแล็ปท็อปที่มีประสิทธิภาพขั้นสูงเท่านั้น ใช่ว่าใครจะได้มาง่ายๆ ต้องผ่านการตรวจมาตรฐานอย่างเข้มงวด เพื่อรับประกันการใช้งานว่าจะได้รับความสะดวกสบายภายใต้ประสิทธิภาพที่สูงที่สุด เช่น แบตฯ ต้องใช้งานต่อเนื่องอย่างน้อย 9.30 ชั่วโมง แต่ MSI Summit E13 Flip EVO สามารถใช้งานต่อเนื่องยาวนานถึง 20 ชั่วโมง ถือว่าดีกว่ามาตรฐานมากๆ
ดีไซน์ความสำเร็จด้วยตัวเองผ่านหน้าจอ Flip ปลับเปลี่ยนการใช้งานได้ 4 รูปแบบ
หัวใจสำคัญของ Business Laptop คือความยืดหยุ่นในการใช้งาน เพื่อรองรับการทำงานไปกับทุกธุรกิจที่ต้องการความคล่องตัว MSI Summit E13 Flip EVO จึงขึ้นรูปวัสดุด้วยระบบ CNC มีความสามารถในการพับที่ยืดหยุ่นถึงระดับ 360 องศา ออกแบบบานพับใหม่ให้สามารถเปิดปิดหรือปรับระดับได้อย่างลื่นไหลได้เหมือนใหม่ทุกครั้ง อีกทั้งออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อรองรับรูปแบบการทำงานที่หลากหลายถึง 4 รูปแบบ ได้แก่ Notebook Mode, Stand Mode, Tent Mode และ Tablet Mode ให้ภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปทุกครั้งที่ Flip
เสริมประสิทธิภาพการใช้งาน Notebook Mode ด้วยแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดที่มาพร้อมปุ่มกดที่ใหญ่กว่าคีย์บอร์ด MSI รุ่นเดิมๆ มีไฟ LED สีขาวจึงใช้งานสะดวกแม้ที่แสงน้อย ขอบโปร่งแสงล้อไปกับปุ่มสีดำ ติดตั้งฟีเจอร์ Fingerprint ใช้งานร่วมกับ Windows Hello แค่สแกนลายนิ้วมือก็เข้าใช้งานตัวเครื่องได้ทันที หรือสแกนหน้าด้วย IR Camera เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
ในส่วนของการใช้งานโหมดอื่นๆ ที่เน้นใช้งานระบบจอสัมผัส MSI Summit E13 Flip EVO รองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้พร้อมกันมากสุด 10 จุด แต่จะเพิ่มความคล่องตัวการใช้งานในโหมดที่ต่างกัน เช่น Tent Mode สามารถจับพาดหรือเกาะขอบสิ่งของได้ ส่วน Tablet Mode สามารถพับหน้าจอกลับแบบ 360 องศา ฝาหลังและฐานใต้ติดกันเหมือนได้แท็บเล็ตประสิทธิภาพสูง
อย่าลืมว่า MSI Summit E13 Flip EVO ยังให้ฟีเจอร์พิเศษ Flip-n-Share บนปุ่ม F12 แค่กดก็กลับหน้าจอไปฝั่งตรงข้ามได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลาหมุนเครื่องไปมา
MSI PEN คู่หูที่รู้ใจ การันตีด้วยรางวัลนวัตกรรม “Best of CES 2021”
สิ่งที่ทำให้ MSI Summit E13 Flip Evo ถูกยกให้เป็น Business Laptop ที่ตอบโจทย์การทำงานในองค์กรธุรกิจที่สุดในตอนนี้ ยังอยู่ที่ MSI PEN นวัตกรรมปากกาที่จะมาเป็นผู้ช่วยรู้ใจในการทำงาน เป็นการพัฒนาร่วมกับ Wacom ในการผลิต ออกแบบด้วยโลหะทั้งหมดแต่เบาเพียง 13.5. กรัม รองรับการชาร์จไฟผ่าน USB-C ใช้งานได้ต่อเนื่อง 65 ชั่วโมง เพื่อเสริมประสิทธิภาพการทำงานในเชิงธุรกิจได้อย่างลื่นไหล มาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานร่วมกับการ Presentation ผ่านเทคโนโลยี MPP 2.0 จึงช่วยให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์มีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
‘Golden Ratio’ หลักการออกแบบที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์นักธุรกิจ
ภาพลักษณ์ที่ดีสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือ และความน่าเชื่อถือย่อมนำไปสู่โอกาสทางธุรกิจ นี่อาจเป็นเหตุผลสำคัญที่ Business Laptop ซีรีส์ Summit ของ MSI ในครั้งนี้นำอัตราส่วน Golden Ratio หรือสัดส่วนทองคำ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สายตามนุษย์มองแล้วลงตัวที่สุดมาใช้ในการออกแบบ ไม่ว่าจะการปรับดีไซน์โลโก้ MSI ใหม่ โดยคำนึงถึงหลัก “จำนวน Fibonacci” รวมถึง “สัดส่วนทองคำ” ที่ 16:1.168 หรือหน้าจอแสดงผลขอบจอบางเฉียบ 13.4 นิ้ว Full HD ก็ใช้สัดส่วน 16:10 เพื่อให้ใกล้เคียงกับ Golden Ratio ที่สุดและยังได้พื้นที่การใช้งานหน้าจอเพิ่มขึ้น 10% ในขณะที่ประสิทธิภาพของสีหน้าจอก็ทำได้ดี ด้วยค่าขอบเขตสี sRGB ที่ 91% และค่า AdobeRGB อยู่ที่ 70%
สะท้อนความเรียบหรู ดูน่าเชื่อถือ ผ่านตัวเครื่องสี Ink-Black รูปแบบใหม่ เพิ่มความพรีเมี่ยม ลึกล้ำ อีกระดับด้วยสีทองขัดเงาตัดขอบ ใช้วัสดุอลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่อง และสร้างด้วยระบบ CNC ทนทานระดับ MIL-STD 810G ซึ่งเป็นมาตรฐานความทนของวัตถุสำหรับด้านการทหาร จึงได้คะแนนความแข็งแกร่งเพิ่มเข้าไปอีก นอกจากนั้น MSI Summit E13 Flip Evo ยังได้เปรียบเรื่องความบางเพียง 14.9 มิลลิเมตรและเบาเพียง 1.35 กิโล จึงพกพาง่าย ให้ความคล่องตัว แสดงถึงวิสัยทัศน์ของ MSI ในการผลิตสินค้าเพื่อสะท้อนตัวตนของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง
TPM2.0 มาตรฐานการปลอดภัยของข้อมูลในระดับสูง
ข้อมูลของทุกองค์กรล้วนมีความสำคัญขั้นสุด MSI Summit E13 Flip Evo จึงมาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษอย่าง Trusted Platform Module (TPM 2.0) ที่เป็นมาตรฐานการปลอดภัยของฮาร์ดแวร์สำหรับการใช้งานในระดับองค์กร เสริมความปลอดภัยและมีมาตรการป้องกันให้กับข้อมูลสำคัญในส่วนของฮาร์ดแวร์โดยเฉพาะ สามารถจัดเก็บข้อมูลต่างๆ และตั้งค่าด้วยรหัสผ่านกับฮาร์ดแวร์ในตัวเครื่องโดนตรง ทรงพลังกว่าการรักษาความปลอดภัยในระดับปกติทั่วๆ ไป
และเพื่อให้สอดคล้องกับการ Work Form Everywhere ประชุมออนไลน์ได้ทุกที MSI Summit E13 Flip Evo ได้มีการป้องกันกล้องเว็บแคมถึงสามระดับ ทั้งไฟแสดงสถานะ เตือนให้รู้ว่ากำลังมีการใช้งาน, ปุ่มลัดในการเปิด/ปิด และสวิตช์ควบคุมที่อยู่บริเวณมุมด้านข้างของตัวเครื่อง อีกทั้งพัฒนาระบบ MSI AI Noise Cancelling และ Noise Reduction CAM มาช่วยตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา ลดสัญญาณรบกวนของภาพที่อาจจะเกิดจากการใช้งานในที่ๆ มีแสงน้อย ช่วยให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
MSI Summit E13 Flip Evo วางจำหน่าย 2 รุ่น คือ CPU Intel 11th Gen Core i5-1135G7 ราคา 46,990 บาท และ Core i7-1185G7 ราคา 51,990 บาท
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม http://msi.gm/SummitE13FlipEvo_A11X
หรือสั่งซื้อได้ที่ https://th.msi.com/Business-Productivity/Summit-E13-Flip-EVO-A11X/wheretobuy
[Advertorial]