น้าชาย-ภรรยา สุดเศร้า เดินทางมายังบ้านพักเพื่อเก็บของเตรียมรับศพ ตชด. ถูกเพื่อนยิงเสียชีวิตคาป้อมยามในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ถาม “ทำไมต้องฆ่ากันด้วย”
จากกรณี ด.ต.ชูชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ตชด.ภาค 2 ก่อเหตุยิง ด.ต.พิชิต แสนขันธ์ อายุ 44 ปี ผบ.หมู่ ฝอ.บก.ตชด.ภาค 2 สภาพสวมเครื่องแบบเต็มยศ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ไหล่ซ้าย 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด แขนซ้าย 1 นัด และที่ขาซ้าย 1 นัด นอนเสียชีวิตในตู้ยามภายในชุมชนบ้านพัก ตชด.ภาค 2 ทางเข้าบ้านหนองไฮ ม.8 ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว : ตชด. เครียดมือถือหาย! ยิงเพื่อนนั่งกินมื้อเช้าดับคาป้อม มือยังกำข้าวเหนียว
ล่าสุดวันที่ 5 ธ.ค.2565 ที่บ้านพักตำรวจ ตชด. ภายในกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านพักของ ด.ต.พิชิต ลักษณะเป็นบ้านพัก 2 ชั้น ประตูทางเข้าถูกคล้องกุญแจล็อกไว้ มีเสื้อผ้าผู้ตายตากอยู่ที่ราวหน้าบ้านพัก ขณะเดียวกัน นายประสิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี น้าชายของผู้ตายพร้อมด้วยภรรยาของผู้ตาย และญาติพี่น้อง เดินทางมาที่บ้านดังกล่าว เพื่อเก็บสิ่งของและเสื้อผ้าผู้ตาย เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่บ้านภรรยาใน อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
นายประสิทธิ์ กล่าวว่า ภรรยาและญาติพี่น้องทราบการตายของ ด.ต.พิชิต จากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. ที่เป็นเพื่อนกับผู้ตาย ฝ่ายตนที่เป็นญาติกับผู้ตายนั้นอยู่ที่บ้านหนองแสง ต.นาจาน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ส่วนภรรยาผู้ตายอยู่ที่ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด เมื่อทราบเรื่องจึงรีบนัดญาติพี่น้องเดินทางมาพบผู้บังคับบัญชาของหลานชาย เพราะอยากรู้สาเหตุที่แท้จริงว่า ทำไมหลานชายปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอยู่ในตู้ยาม แต่ถูกเพื่อน ตชด.มายิงจนเสียชีวิต
“ผมไม่เข้าใจ ทำไมเพื่อนที่เป็น ตชด.เป็นตำรวจด้วยกัน ทำงานด้วยกันจึงฆ่ากันได้ ฆ่าทั้งที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่แท้ ๆ จึงอยากรู้รายละเอียดว่า มีสาเหตุโกรธเคืองกันด้วยเรื่องอะไร ทำไมต้องฆ่ากันด้วย อยากให้ผู้บังคับบัญชาอธิบาย ทำความเข้าใจกับครอบครัวด้วย” นายประสิทธิ์ กล่าว
นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมารับศพหลานชาย แต่ยังรับกลับไปบำเพ็ญกุศลไม่ได้ เพราะอยู่ระหว่างที่แพทย์กำลังชันสูตรศพตามขั้นตอน ซึ่งเมื่อแพทย์ชันสูตรเรียบร้อย ภรรยาผู้ตายก็จะรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านที่ อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านพักของ ด.ต.ชูชาติ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ผู้ก่อเหตุ พบว่าเป็นบ้านพัก 2 ชั้น มีรถยนต์ 7 ที่นั่ง ยี่ห้อฮอนด้า BR-V ทะเบียน ขม-2292 ขอนแก่น จอดอยู่หน้าบ้าน และมีกุญแจเสียบไว้ที่ลูกบิดประตูทางเข้าบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากบก.ตชด.ภาค 2 เข้าตรวจบ้านพัก เพื่อเก็บหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุถครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับเพื่อนบ้าน ทราบว่า ผู้ก่อเหตุพักอยู่คนเดียว เป็นคนอัธยาศัยดี เงียบ ๆ และไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่พักในบ้านพักห้องนี้คนเดียว ไม่ค่อยเห็นภรรยาหรือครอบครัวและญาติพี่น้องมาหา ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ และไม่ได้ยินเสียงปืน รู้อีกทีตอนเห็นมือปืนเดินกลับเข้าบ้านพร้อมปืนสั้นในมือ จากนั้นก็ออกจากบ้านด้วยการสะพายปืนเอ็ม 16 ออกไปด้วย และเดินไปมาบนถนนในหมู่บ้าน
จากนั้น ก็มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด. และตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เข้ามาระงับเหตุและปิดล้อม เพื่อจับกุมมือปืนและสามารถจับกุมมือปืนได้ที่สวนหย่อมห่างจากบ้านพักของมือปืนไปประมาณ 30 เมตร ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นทุกคนปิดบ้านกันหมดและไม่ได้ยินเสียงปืนเนื่องจากยังเป็นช่วงเช้าของวันหยุด ก่อนจะมาทราบก็มีตำรวจมาเต็มพื้นที่แล้ว