4 นิสัยเหล่านี้ ที่ทำไปเพราะคิดว่า “ประหยัด” แต่หารู้ไม่ว่าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีคนจำนวนมากที่ยังทำอยู่

เว็บไซต์ SOHA ได้รวบรวม 4 พฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ปัจจุบันยังมีคนจำนวนมากที่ยังทำอยู่ ดังนี้

1. การสะสมถุงพลาสติกฟรีจากซูเปอร์มาร์เก็ต

คุณอาจเคยเห็นหลายคน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มักจะเก็บถุงพลาสติกฟรีจากซูเปอร์มาร์เก็ตแล้วนำกลับบ้านมาใช้ พวกเขาคิดว่าถุงเหล่านี้ทนทาน สามารถใช้เก็บอาหารเหลือ หรือใช้แทนถุงเก็บอาหารที่ต้องซื้อ

แต่ต้องรู้ว่าถุงพลาสติกในซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีในการใช้งานระยะยาว เพราะมักทำจากวัสดุ PE ที่ทนความร้อนไม่ดี อาจเกิดปฏิกิริยากับอาหาร โดยเฉพาะอาหารร้อนหรือน้ำมัน ดังนั้นควรหยุดนิสัยการใช้ถุงพลาสติกจากซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะมันไม่ประหยัดอย่างที่หลายคนคิด

2. การสะสมตะเกียบใช้แล้วทิ้ง

ในวันที่ขี้เกียจทำอาหาร การสั่งอาหารนอกบ้านกลายเป็นทางเลือกของหลายคน และแน่นอนว่าเมื่อสั่งอาหารตะเกียบใช้แล้วทิ้งมักจะมาพร้อมกับอาหารนั้น หลายร้านอาหารมักให้ตะเกียบเพิ่มไป 1-2 คู่ และตะเกียบเหล่านี้มักถูกเก็บไว้ด้วยความคิดว่ามีไว้ใช้ในโอกาสถัดไป จนเกิดเป็นนิสัยในการสะสมตะเกียบใช้แล้ว

แม้ว่าการสะสมจะดูเหมือนสะดวก แต่จริง ๆ แล้วไม่คุ้มค่า เพราะตะเกียบใช้แล้วทิ้งมักทำจากไม้เหลือ และต้องใช้สารเคมี เช่น น้ำยาฟอกขาวและกำมะถัน เพื่อทำให้มันขาวสะอาด ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้ตะเกียบไม่ปลอดภัย แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะตะเกียบที่ผลิตจากโรงงานที่ไม่มีมาตรฐาน ดังนั้นหวังว่าควรจะเลิกนิสัยสะสมตะเกียบใช้แล้ว และควรจำกัดการใช้มันให้มากที่สุด

3. การใช้กระทะที่ชั้นเคลือบกันติดหลุดลอก

หลังจากการใช้งานไปนาน ๆ ชั้นเคลือบกันติดบนกระทะจะเริ่มหลุดลอกออก แต่หลายคนยังคงใช้ต่อไปโดยคิดว่ากระทะยังใช้ได้ดีอยู่ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้น รอยแตกและชั้นเคลือบที่หลุดลอกไม่เพียงทำให้กระทะสูญเสียคุณสมบัติการกันติด แต่ยังอาจหลุดไปปนเปื้อนในอาหารขณะทำอาหาร ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของคนทั้งครอบครัวได้

ดังนั้นอย่าคิดว่า “กระทะยังใช้ได้” เมื่อพบว่ามีร่องรอยเสียหาย โดยเฉพาะเมื่อชั้นเคลือบกันติดเริ่มหลุดลอก ควรยอมกล่าวคำอำลากับกระทะใบเก่าได้เลย

4. การใช้เขียงไม้ที่ขึ้นรา

หลายคนมีนิสัยประหยัด คิดว่าเมื่อเขียงไม้ขึ้นรา เพียงแค่ล้างด้วยน้ำร้อนก็สามารถใช้งานต่อได้ แต่ความจริงแล้ว วิธีนี้ไม่สามารถทำลายเชื้อราและแบคทีเรียที่เหลืออยู่ได้ และหากยังคงใช้เขียงในการหั่นอาหาร เชื้อเหล่านี้จะปนเปื้อนในอาหารและเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและสุขภาพ

ดังนั้นอย่าทำเพื่อประหยัดแค่ไม่กี่สิบบาทแล้วเสี่ยงต่อสุขภาพของตัวเอง การประหยัดเป็นเรื่องดี แต่สุขภาพต้องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด