ทำความรู้จัก "ลัทธิโยเร" ว่าด้วยพลังแสงจากฝ่ามือช่วยรักษาอาการโรคภัย

Home » ทำความรู้จัก "ลัทธิโยเร" ว่าด้วยพลังแสงจากฝ่ามือช่วยรักษาอาการโรคภัย
ทำความรู้จัก "ลัทธิโยเร" ว่าด้วยพลังแสงจากฝ่ามือช่วยรักษาอาการโรคภัย

ชื่อของ “ลัทธิโยเร” กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง หลังสัตวแพทย์หญิงจบชีวิตตัวเองและลูกสาววัย 12 ปี พร้อมด้วยนกเลี้ยงอีก 2 ตัว โดยทิ้งจดหมายสั่งเสียให้นำร่างของตนและลูกสาวกับนกใส่โลงเดียวกัน และทำการเผาทันที ก่อนที่สามีของผู้ตายจะออกมาเปิดเผยถึงภาวะซึมเศร้าและการไปนับถือลัทธิโยเรของภรรยา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชื่อของลัทธิโยเรปรากฏอยู่ในหน้าข่าว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดกรณีแม่วัย 51 ปี นั่งเฝ้าศพลูกชายที่เสียชีวิตมานานกว่า 4 วัน โดยไม่นำศพลูกไปประกอบพิธีทางศาสนา ซึ่งข่าวนี้ก็มีการระบุถึงลัทธิโยเรเช่นกัน 

  • สลด สัตวแพทย์ซดไซยาไนด์ดับพร้อมลูกสาว 12 ขวบ ทิ้ง จม.ลา-เงิน 1 แสน
  • สามีเผยคลั่งลัทธิ สัตวแพทย์ซดไซยาไนด์ ดับพร้อมลูก 12 ขวบ ทิ้งจดหมายสั่งห้ามสวดศพ

แล้ว “ลัทธิโยเร” ที่กำลังพูดถึงกันนี้คืออะไร เข้ามาในประเทศไทยได้อย่างไร Sanook พาทุกคนไปทำความรู้จัก “ลัทธิโยเร” ลัทธิที่เชื่อว่าแสงจากฝ่ามือจะช่วยรักษาโรคภัย อาการเจ็บป่วยทางร่างกายและจิตใจได้

“ลัทธิโยเร” คืออะไร

ลัทธิโยเร หรือ “เซไกคีวเซ” เป็นศาสนาใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยเกิดจากการผสมผสานความเชื่อของลัทธิชินโด ศาสนาพุทธนิการมหายาน และหลักจริยธรรมสากล ก่อตั้งโดยโมกิจิ โอกาดะ เมื่อปี พ.ศ.2478 อย่างไรก็ตาม หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นผู้แพ้สงคราม ทำให้ในช่วงปี พ.ศ.2490 ลัทธิโยเรเริ่มมีแนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น 

Sekai Kyūsei Kyōมูลนิธิ คาซูโอะ-ซูรุ วาคุกามิ

คำว่า โย แปลว่า ชำระล้าง และ เร แปลว่า จิตวิญญาณ ด้วยเหตุนี้ โยเรจึงหมายถึงชำระล้างทางจิตวิญญาณ โดยลัทธิโยเรมีความเชื่อเรื่องการส่งพลังแสง (หรือแสงทิพย์) ผ่านฝ่ามือสู่ร่างกายเพื่อจุดประสงค์ในการรักษาความทุกข์ทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ และยังมีแนวปฏิบัติอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องความงาม ศิลปะจากธรรมชาติ ทั้งนี้ คำสอนหลักของลัทธิโยเรคือการทำความดี และต้องชักชวนลูกหลานให้มาร่วมเป็นสาวก 

สื่อญี่ปุ่นเคยออกมาเตือนเรื่องลิทธิโยเร ระบุว่าเป็นลัทธิอันตราย ซึ่งประเทศญี่ปุ่นและหลายประเทศในยุโรปต่างเฝ้าระวังลัทธิดังกล่าว โดยกล่าวหาว่าคำสอนหลายอย่างของลัทธิโยเรเข้าข่ายการล้างสมอง

ลัทธิโยเรในประเทศไทย

จากข้อมูลของเว็บไซต์วิกิพีเดีย ระบุว่า ลัทธิโยเรเข้าสู่ประเทศไทยในปี พ.ศ.2511 โดยคาซูโอะ วากูกามิ เริ่มต้นจากการเผยแพร่คำสอนโดยการแปลเอกสารทางศาสนา และก่อตั้งโรงเรียนเกษตรกรรมในประเทศไทย จดทะเบียนในชื่อ “มูลนิธิบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา” ต่อมากรมศาสนาได้รับรองให้มูลนิธิเป็นองค์กรศาสนาย่อยของศาสนาพุทธนิกายมหายาน มีการเผยแพร่ศาสนาและมีศาสนิกชนเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

Sekai Kyūsei Kyō logo

อย่างไรก็ตาม กรมศาสนาได้เพิกถอนสถานะการเป็นนิกายของศาสนาพุทธนิกายมหายาน จึงถูกลดสถานะกลับไปเป็นมูลนิธิ โดยปัจจุบัน ลัทธิโยเรมีศาสนสถานอยู่ที่จังหวัดสระบุรี เรียกว่าองค์การศาสนาเซไคคิวเซเคียวประจำประเทศไทย (หรือหอเซจิ) 

การเข้าร่วมลัทธิ

ผู้ที่จะเข้าร่วมลัทธิโยเรต้องเข้ารับจี้โอฮิการิ หรือเรียกว่า “การรับพระ” ซึ่งมีค่าใช้จ่าย และต้องปฏิบัติศาสนกิจ เรียกว่า “กิจกรรมพระ” รวมถึงต้องเผยแพร่ศาสนาเพื่อเพิ่มจำนวนศาสนิกชนให้มากขึ้น หลังจากนั้น สาวกลัทธิโยเรต้องพกพระโยเรติดตัวเอาไว้ และจะสามารถปล่อยแสงทิพย์ออกจากมือเพื่อรักษาโรคได้ 

นอกจากนี้ สาวกของลัทธิโยเรจะถูกแบ่งเป็นหลายระดับ โดยแบ่งออกเป็น 5 ระดับ ดังต่อไปนี้

  • ระดับศาสนิกชน คือ บุคคลที่เพิ่งเข้าสู่ลัทธิโยเรได้ไม่นาน
  • ระดับเซวานิน คือ บุคคลที่เข้าลัทธิได้ 1 – 2 ปี มีหน้าที่ดูแลศาสนิกชนที่เพิ่งเข้ามา และต้องชักชวนบุคคลอื่นเข้าสู่ลัทธิ
  • ระดับไฮเคียว คือ บุคคลที่เข้าลัทธิ 2 ปีขึ้นไป จะต้องเข้ามาประกอบกิจของลัทธิเป็นประจำ
  • ระดับภูไคอิน คือ บุคคลระดับสูง เข้ามาประกอบกิจลัทธิบ่อยครั้ง ทั้งยังมีความเลื่อมใสในลัทธิอย่างสูงส่ง
  • ระดับเคียวไคโจ คือ สาวกระดับอาจารย์ จะมีแค่ 1 คนต่อสาขา ต้องเป็นผู้ละทางโลก และเป็นคนสอนคำสอนให้กับสาวก

การเข้าร่วมลัทธิโยเรนั้น ไม่ใช่ใครก็สามารถเข้าได้ง่ายๆ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมลัทธิ และต้องเข้ามาร่วมประกิบกิจของลัทธิเป็นประจำ ทั้งนี้ ลัทธิโยเรยังคงทำกิจกรรมสนับสนุนทุนการศึกษาศาสนาพุทธให้แก่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยเป็นประจำทุกปี และการต่อต้านยาเสพติด รวมไปถึงการปรับปรุงวิธีการเผยแผ่ศาสนาด้วยการสนับสนุนสถาบันหลักและวัฒนธรรมไทย

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ