ทาสยานรก! ลูกติดยาตีพ่อแม่ปางตาย ต้องยกมือไหว้อ้อนวอนขอชีวิต

Home » ทาสยานรก! ลูกติดยาตีพ่อแม่ปางตาย ต้องยกมือไหว้อ้อนวอนขอชีวิต
ทาสยานรก! ลูกติดยาตีพ่อแม่ปางตาย ต้องยกมือไหว้อ้อนวอนขอชีวิต

6 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับผู้บาดเจ็บคือ นางวาสนา อายุ 48 ปี และนายอุดม อายุ 51 ปี อยู่บ้านโนนงาม ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งร้องขอความช่วยเหลือ ขอให้สื่อมวลชนเป็นสื่อกลาง นำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นในครอบครัว เพราะลูกชายติดยาบ้า ทำร้ายบิดามารดา บาดเจ็บ แจ้งตำรวจก็ไม่รับแจ้ง

จึงอยากขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือนำบุตรชาย เข้าสู่การบำบัดรักษา เพราะถ้าไม่รักษา เชื่อว่าลูกชายต้องฆ่าพ่อแม่แน่ๆ

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าว พบกับนางวาสนา อายุ 48 ปี และนายอุดม อายุ 51 ปี ซึ่งนางวาสนามีบาดแผลที่กลางศีรษะ เย็บ 7 เข็ม ที่หน้าผากด้านขวา เย็บ 4 เข็ม มีผ้าก็อตปิดแผลเอาไว้

นอกจากนี้ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำไปทั่ว และทั้งสองคนผัวเมีย ต่างก็ต้องย่างไฟร่างกายกับสมุนไพรโบราณที่ญาติพี่น้องนำมาให้ เพื่อแก้อาการช้ำใน และรักษาอวัยวะภายในตามแผนโบรา และยังพบว่า ประตูห้องนอน ถูกทำลายจนเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ทุกห้อง

นายอุดม กล่าวทั้งน้ำตาว่า ลูกชายติดยาบ้า แต่ละวันจะขอเงินเช้า เที่ยง เย็น ครั้งละ 20-50-100 บาท เอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ และไม่ทำงาน เคยทำร้ายพ่อแม่มาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้หนักที่สุด จนแทบเอาชีวิตไม่รอด

โดยในวันเกิดเหตุ ช่วงเช้าของวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 ได้ขับรถพานายโกมินทร์ อายุ 26 ปี ลูกชายคนโตไปทำบัตรประชาชน กลับถึงบ้านตอนบ่าย ลูกชายก็ขอเงิน แต่พ่อไม่ให้ โดยบอกกับลูกชายว่า เอาไว้ให้แม่ซื้อกับข้าวให้กิน ลูกชายไม่พอใจตรงเข้าชก เตะ ต่อยหลายครั้ง จึงตัดสินใจควักเงินให้ 50 บาท เมื่อได้เงินลูกชายก็ออกจากบ้านไป ตนจึงออกไปทำนา

ทางด้าน นางวาสนา กล่าวว่า ช่วงเช้าของวันเกิดเหตุ สามีพาลูกชายคนโตไปทำบัตรประชาชน ส่วนตนกับลูกชายคนเล็กไปทำนา ช่วงบ่ายสามีไปที่นาในสภาพบอบช้ำทั่วร่างกาย โดยสามีบอกว่า ถูกลูกชายคนโตทำร้ายร่างกาย ตอนเย็นตนจึงกลับเข้าบ้าน เพื่อนึ่งข้าวและทำกับข้าวกินกัน

ขณะกำลังนั่งก่อไฟที่เตาถ่าน นายโกมินทร์ เดินมาขอเงิน จึงบอกว่าไม่มี นายโกมินทร์ ก็ตรงเข้ามาเตะจนฟุบลงกับพื้นดิน จากนั้นก็เอาด้ามไม้กวาด ยาว 80 ซม.มาฟาดตามร่างกายหลายสิบครั้ง ตั้งสติลุกขึ้นได้รีบวิ่งออกจากบ้าน

นายโกมินทร์ก็วิ่งไล่ตีที่ศีรษะจนแตก กระทั่งมีชาวบ้านมาช่วยเหลือไว้ได้ ญาติพี่น้อง จึงพาตนส่งที่ รพ.และพาเข้าแจ้งความ แต่ตำรวจบอกว่า ให้มาแจ้งในวันถัดไป เพราะร้อยเวรไม่อยู่ จึงได้กลับบ้านและมาแจ้งความในวันที่ 4 ก.ค.2566 ส่วนลูกชายก็ถูกตำรวจจับตัวไปเรียบร้อยแล้ว

“ตอนนี้อยากขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชน ให้เป็นสื่อกลางสื่อสารไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเอาลูกชายไปบำบัดรักษาอาการติดยาบ้าให้ด้วย บำบัดเป็นปียิ่งดี เพราะไม่เช่นนั้น ลูกชายออกจากคุกมา ต้องมาลักเอาทรัพย์สินของมีค่าในบ้านไปขาย

เพราะที่ผ่านๆมาในแต่ละวัน ถ้าพ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ลูกชายไม่มีเงินซื้อยาบ้าเสพ ลูกชายจะเอาข้าวเปลือกไปขาย เอาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ และเชื่อว่า ถ้าลูกชายออกจากคุก ก็จะกลับมาเสพยาบ้าอีก และจะต้องฆ่าพ่อกับแม่แน่นอน”

ทางด้าน พ.ต.อ.พิชัย นาขันดี ผกก.สภ.มัญจาคีรี กล่าวว่า ช่วงเย็นวันที่ 3 ก.ค. 66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบล รับแจ้งเหตุ ทำร้ายร่างกายบุพการี ที่บ้านโนนงาม ต.นางาม อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ซึ่งบ้านหลังดังกล่าว มีเป้าหมายที่ต้องเฝ้าระวัง

เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลนางามจึงประสานขอกำลังตากชุดสายตรวจร้อยเวร เข้าควบคุมตัวนำตัวนายโกมินทร์ ได้ที่บ้านพัก นำตัวมาที่สภ.มัญจาคีรี และทำการตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง และนายโกมินทร์ก็รับสารภาพว่าเสพยาบ้าจริง

จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวไว้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย กรณีของผู้เสียหายที่เป็นมารดานั้น ทราบว่า ถูกตี บาดเจ็บ มีญาติเข้าแจ้งความ ตำรวจจึงแนะนำไปว่า ให้ไปพบแพทย์รักษาตัวก่อนค่อยมาแจ้งความก็ได้

จากนั้นวันต่อมาผู้เสียหายได้มาแจ้งความ และให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว จากการสอบสวนมารดาและบิดา ต่างก็ยืนยันให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกชาย

พนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อหากับนายโกมินทร์อีก 1 ข้อหาคือข้อหา ทำร้ายบุพการี ตามป.อาญา มาตรา 296

ซึ่งนายโกมินทร์ก็รับสารภาพว่า ที่ทำร้ายบิดามารดา เพราะโมโหที่ขอเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพไม่ได้ จึงทำร้ายมารดาตัวเอง และชกต่อยบิดา หลังทราบรายละเอียดและผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พนักงานได้ส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ศาล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ