เมื่อวันศุกร์ ทายาทของอดีตราชวงศ์รัสเซียเข้าพิธีสมรสกับหญิงชาวอิตาเลียน ในพิธีการตามแบบราชวงศ์ครั้งแรกในรัสเซียนับตั้งแต่ราชวงศ์รัสเซียถูกโค่นอำนาจเมื่อกว่าศตวรรษที่แล้ว ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
แกรนด์ดยุก จอร์จ มิไคโลวิช โรมานอฟ เข้าพิธีสมรสกับวิคตอเรีย โรมานอฟนา เบตตารินิ ชาวอิตาเลียน ที่โบสถ์เซนต์ ไอแซค ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อดีตเมืองหลวงของรัสเซียในยุคจักรวรรดิรัสเซีย
บาทหลวงชาวรัสเซียนิกายออร์โธดอกซ์เป็นผู้ประกอบพิธีดังกล่าวท่ามกลางแขกผู้ร่วมงานหลายร้อยคน รวมถึงมารดาของเจ้าบ่าว แกรนด์ดัชเชส มาเรีย วลาดิมิรอฟนา แห่งรัสเซีย ผู้อ้างสิทธิ์เป็นทายาทของบัลลังก์รัสเซีย และสมาชิกราชวงศ์ยุโรปชั้นผู้น้อยกว่าสิบคน
แกรนด์ดยุก คิริล วลาดิมิโรวิช ตาทวดของจอร์จ มิไคโลวิช และญาติของจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 หนีจากรัสเซียในช่วงการปฏิวัติบอลเชวิคเมื่อปี ค.ศ.1917 โดยหนีไปยังฟินแลนด์ก่อนจะย้ายไปอยู่ยุโรปตะวันตกกับครอบครัว
จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 หรือ ซาร์ นิโคลัสที่ 2 ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์สุดท้ายของรัสเซีย พระชายา และพระราชบุตรพระราชธิดาห้าพระองค์ ทรงถูกคณะปฏิวัติยิงสังหารเมื่อเดือนกรกฎาคม ค.ศ.1918 ในบ้านอิปาเตียฟ เมืองเยคาเตรินบุร์ก ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกราว 1,450 กิโลเมตร
จอร์จ มิไคโลวิช วัย 40 ปี เกิดที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน และใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในสเปนและฝรั่งเศส ในขณะที่เบตตารินิ วัย 39 ปี เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์เมื่อปีที่แล้ว และได้รับชื่อใหม่ว่า วิคตอเรีย โรมานอฟนา บิดาของเธอคือนายโรเบอร์โต เบตตารินิ เจ้าหน้าที่การทูตชาวอิตาเลียน
จอร์จ มิไคโลวิช เดินทางเยือนรัสเซียครั้งแรกเมื่อปีค.ศ. 1992 และย้ายมาอยู่ที่กรุงมอสโกเมื่อปี ค.ศ.2019 โดยเขาทำโครงการการกุศลหลายโครงการ
ทั้งนี้ ราชวงศ์โรมานอฟเคยปกครองรัสเซียกว่า 300 ปี จนกระทั่งจักรพรรดินิโคลัสที่ 2 ทรงสละราชสมบัติเมื่อช่วงต้นปีค.ศ. 1917 นำไปสู่การปฏิวัติบอลเชวิคในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน ตามมาด้วยสงครามกลางเมืองและการขึ้นสู่อำนาจของพรรคคอมมิวนิสต์เป็นเวลา 70 ปี
คริสตจักรออร์โธดอกซ์รัสเซียประกาศให้จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 เป็นนักบุญ หลังจากที่เขาถูกมองว่าเป็นผู้นำที่อ่อนแอ