พักสอนก่อนมันไม่ได้ทำให้ลูกคุณดีขึ้น และไม่ได้สอนให้ลูกคนอื่นดีขึ้นเลย ทัวร์จะมาลงไม่ว่า แอนนี่ รับไม่ได้จริงๆ นี่ก็มีลูกชาย เลิกจุ๊บปากตั้งแต่ 6-7 ขวบ เลิกแก้ตัวเห็นมาเป็นปีแล้ว

จากกรณี แอนนี่ บรู๊ค คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ออกมาแสดงความเห็นเดือด กรณีคุณแม่น้องมาร์แตล หรือ ม๊าหมวยมาร์แตล ซึ่งเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลมาร์แตล วัย 25 ปี ลูกชายเป็นออทิสติก และมีชื่อเสียงมาจากการที่แม่ชอบถ่ายคลิปวิดีโอลงติ๊กต็อก โดย แอนนี่ โพสต์ปรามว่าไม่ควรทำ เลิกทำได้แล้วนั้น (อ่านข่าว : แม่น้องมาร์แตล แจงคลิปดราม่า รับไม่เหมาะที่เอามาลง แต่มุมมองของแม่ลูกแค่อ้อน )

โดยคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว แอนนี่ ยังได้โพสต์คลิปลงติ๊กต็อกฝากเตือนไปถึงแม่น้องมาร์แตลด้วยว่า เขาจะมั่นใจตัวเองมาก ทุกครั้งที่เขาเอาปฏิกิริยารุนแรงของลูกตีอกชกตัวจะจัดการยังไง ถ้าแค่คลิปสองคลิป แอนว่ายังโอเค แต่นี่มันเป็นปีๆแล้ว พยายามสร้างแฟนคลับหรืออะไรให้มาเอ็นดูน้อง (อ่านข่าว : ‘แอนนี่ บรู๊ค’ โพสต์วิจารณ์เดือด ! กรณีดราม่า ‘แม่น้องมาร์แตล’)

แอนว่าลองมองมุมมองใหม่ เลิกลงในสิ่งที่ลูกเป็นได้แล้ว ลูกแอบดูทีวีจะกรี๊ดโวยวายก็จะถ่ายหน้าลูกตลอดเวลา ถ้าเขาเป็นเด็กปกติเขาจะบอกแม่เลิกถ่ายได้แล้ว นี่ขนาดเราขอถ่ายลูกเราต้องขออนุญาตลูกเราลงทุกครั้ง เพราะลูกเราโตแล้ว

นี่น้องเป็นเด็กพิเศษยิ่งต้องให้ความสำคัญมากขึ้น ไม่ใช่ไปถ่ายเขาเอาแล้วลงเหมือนจะสอนแม่คนอื่น แต่มองมาเป็นปีไม่สามารถจัดการกับสิ่งเหล่านี้ได้ เราไม่เรียกว่าสอน ส่วนปัญหาเรื่องแอบดูทีวีก็แก้โดยไม่มีทีวีอยู่ตรงนั้นเลย เรากำจัดปัญหาที่ต้นตอ ไม่ใช่พอน้องเป็นแล้วถ่ายคลิปบอกว่านี่คือเด็กไม่ดีเห็นไหม มันเป็นการประจานลูกตัวเอง

ล่าสุดที่เป็นประเด็น นี่ก็มีลูกผู้ชาย เลิกจุ๊บเลิกจูบปากลูก ตั้งแต่ลูก 6-7 ขวบ แล้วนะ เพราะมันไม่สมควร แล้วการไม่เสื้อ ล่อแหลม มันทำไม่ได้ พอเห็นลูกมีอารมณ์ทางเพศขึ้นมา คุณหัวเราะ แอนรับไม่ได้จริงๆ

@anniebrooks4289คุณแม่เลิกเถอะค่ะ โคตรจะไม่เหมาะสมเลย♬ เสียงต้นฉบับ – แอนนี่ บรู๊ค

อย่าแก้ตัว เลิกแก้ตัว เห็นมาหลายคลิปแล้วคุณมั่นใจมากเหลือเกิน ทัวร์จะมาลงที่แอนก็ได้ แอนไม่ว่า เพราะแอนก็มีลูกชาย ที่เห็นหลายครั้งไม่ว่าเด็กผู้หญิงหรือผู้ชาย ยิ่งถ้าเป็นเด็กพิเศษ คุณยิ่งไม่ต้องเอาเขามาลง

แอนนี่ ยังฝากอีกว่า คุณบอกเอามาลงเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนคน พักสอนก่อนเพราะสิ่งที่สอนมันไม่ได้ทำให้ลูกคุณดีขึ้น และมันไม่ได้สอนให้ลูกของคนอื่นดีขึ้นเลย เพราะมันไม่ใช่จิตวิทยาแม้แต่ข้อเดียวสิ่งที่คุณสอนลูกคุณ ไปมั่นใจตรงไหนว่าเป็นจิตวิทยา เอามาจากหมอคนไหน หนังสือเล่มไหนช่วยบอกหน่อย