ภาพยนตร์แอ๊กชั่นระห่ำน่านฟ้าภาคต่อที่หลายคนรอคอย Top Gun : Maverick (ท็อปกัน : มาเวอริค) ลงจอให้ชมกันแล้ว
ในวันศุกร์ที่ 7 กันยายน ปี 2018 ทอม ครูซ ได้เดินทางกลับมายังมิรามาร์ ฐานทัพทหารซึ่งมีการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Top Gun เมื่อกว่า 30 ปีก่อนหน้านี้ ในฤดูใบไม้ผลิของปี 1985 เขาไปที่นั่นเพื่อเข้ารับการอบรม ASTC (หลักสูตรการฝึกการเอาตัวรอดด้านการบิน) อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้มีคุณสมบัติสำหรับซีเควนซ์การบินที่ยาวนานด้วยเครื่องบิน F/A-18 ของกองทัพเรือสหรัฐ ที่เขายืนยันว่าจำเป็นต่อการถ่ายทำ Top Gun : Maverick ภาคต่อที่หลายคนรอคอยมายาวนาน
“ผมคิดเกี่ยวกับภาคต่อของ Top Gun มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา” ครูซกล่าวถึงการกลับมาในฐานะผู้อำนวยการสร้างและนักแสดงในครั้งนี้ “ผู้คนถามหาภาคต่อมานานหลายทศวรรษมากๆ และสิ่งที่ผมพูดกับสตูดิโอตั้งแต่แรกคือ ถ้าผมจะทำสิ่งนี้ เราจะต้องถ่ายทำทุกอย่างจริงๆ ผมอยู่ในเครื่องบิน F/A-18 นั่นจริงๆ ดังนั้น เราจะต้องพัฒนากลไกสำหรับกล้องขึ้นมา และจะต้องมีอุโมงค์ลมและวิศวกรรมด้วย”
“ผมต้องใช้เวลานานมากกว่าจะคิดมันออกมาได้ และผมต้องการทำงานกับ เจอร์รี (บรักไฮเมอร์) ผมไม่มีวันสร้างหนังเรื่องนี้โดยไม่มีเขาเด็ดขาด หลายปีที่ผ่านมามีคนพูดว่าคุณถ่ายหนังเรื่องนี้ด้วย CGI ได้ไหม และผมก็พูดเสมอว่าไม่ นั่นไม่ใช่ประสบการณ์ ผมบอกว่า ผมต้องการค้นหาเรื่องราวที่ใช่และเราต้องการทีมที่ใช่ด้วย หนังเรื่องนี้เหมือนความพยายามจะยิงกระสุนด้วยกระสุน ผมไม่ได้ทำอะไรเล่นๆ ครับ”
พระเอกดังยังพูดถึงเรื่องการบินว่ามีความยิ่งใหญ่และสวยงาม เป็นทั้งการใช้และท้าทายธรรมชาติ และการรับบทมาเวอริคอีกครั้งในช่วงชีวิตที่แตกต่างของเขาก็เป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อ “สำหรับผมมาเวอริคยังคงเป็นมาเวอริค เขายังคงต้องการบิน Mach 2 อย่างมุทะลุ แต่คุณเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับมาเวอริค ความกดดันที่เขาต้องสูญเสียเพื่อนรักไป ความรับผิดชอบที่เขารู้สึกเกี่ยวกับสิ่งนั้น และวิธีที่เขาแบกรับความรู้สึกนั้นไปกับเขาด้วย และเหตุการณ์นั้นได้เปลี่ยนชีวิตของเขาและรูสเตอร์ (ไมลส์ เทลเลอร์) ไปตลอดกาลได้อย่างไร มาเวอริครักรูสเตอร์เหมือน เป็นลูกชายคนหนึ่ง หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับครอบครัวและเกี่ยวกับมิตรภาพและการเสียสละ มันเกี่ยวกับการไถ่บาปและค่าตอบแทนของความผิดพลาดครับ”
พบกับ Top Gun : Maverick (ท็อปกัน : มาเวอริค) ได้แล้ววันนี้ ทุกโรงภาพยนตร์